SHARE

คัดลอกแล้ว

ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุปะทะกลางเขา อ.จะแนะ นราธิวาส หลังโจรใต้ปะทะเดือดกับ จนท. วิสามัญ 2 ศพ พบเป็นฐานที่มั่นถาวร ขณะที่แม่ทัพภาค 4 สั่งบูรณาการทุกหน่วยกำลัง 3 ฝ่าย เข้มทุกพื้นที่อ่อนไหว ป้องกันเหตุตอบโต้

วันที่ 13 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุยิงปะทะของชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส กับกลุ่มก่อความไม่สงบ กลางฐานที่มั่นบนเทือกเขาช้างเผือก พื้นที่ บ.ไอร์ลาคอ ม.5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เข้าสู่วันที่ 3 โดยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ต้องเข้าไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ มาประกอบการสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุด้วยความยากลำบาก เพราะด้วยภูมิประเทศนั้นเป็นป่าเขา ยากต่อการเดินทางด้วยรถยนต์หรือการเดินเท้าเข้าไป ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง

โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และการนำศพคนร้ายที่เสียชีวิตจากการปะทะ 2 ศพ ยิ่งใช้เวลายืดเยื้อยาวหลายวัน เกรงจะยิ่งสร้างความเสียหาย จึงได้มีการขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำ จากหน่วยบินทหารบกอโนทัย กองทัพภาคที่ 4 ลำเลียงกำลังเจ้าหน้าที่ไปส่งยังจุดลงจอดชั่วคราวบนเทือกเขาที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุปะทะให้มากที่สุด ท่ามกลางความเสี่ยงจากภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาสูงชัน และพอมีพื้นที่ให้เฮลิคอปเตอร์ไปหย่อนส่งกำลังพลลงไปปฏิบัติหน้าที่ และต้องเดินเท้าไปต่อตามเส้นทางที่เป็นหุบเขาลาดชันร่วม 3 ชั่วโมงอย่างยากลำบาก กว่าจะสามารถช่วยกันหามทั้ง 2 ศพ ออกจากเขามายังจุดลงจอดเฮลิคอปเตอร์ และนำไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคลที่โรงพยาบาลจะแนะได้สำเร็จ ต้องใช้เวลาถึง 2 วัน 2 คืน

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เดินทางตรวจสอบจุดเกิดการยิงปะทะพร้อมเปิดเผยผลการตรวจสอบแวดล้อมต่างๆ ยืนยันว่าเป็นฐานที่มั่นถาวรของกลุ่มก่อความไม่สงบมานาน สามารถนอนอยู่ได้ 10-12 คน มีพื้นที่ก่อสร้าง ที่กางเป็นเต็นท์นอนได้ประมาณ 8 เต็นท์ มีส่วนที่เป็นประปาต่อท่อนำน้ำจากน้ำตกลงมาใช้ มีถังเก็บน้ำ มีโรงครัว มีที่ประชุม โดยยังได้ยืนยันผลตรวจข้างต้นเกี่ยวกับข้อมูลคนร้ายที่เสียชีวิต 2 ศพนั้น คือ นายอายิ ยามา มีหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคง 8 หมาย และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าพระสงฆ์ ส่วน นายสุกรี มามุ มีหมายจับ พรก. ส่วนรอยเลือดคนร้าย ที่พบหลายจุด หน่วยพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรายละเอียดหมดแล้ว

พล.ต.ท.รณศิลป์ ยังเปิดเผยอีกว่า ในส่วนของกลางที่ยึดได้นั้น ประกอบด้วยอาวุธปืน 3 กระบอก โดยกระบอกแรกเป็นอาวุธปืน M16 A2 คนร้ายได้มาจากเหตุวางระเบิดรถฮัมวี่ เมื่อปี 2551 มีทหารเสียชีวิตจำนวน 8 ราย กระบอกที่ 2 เป็นอาวุธปืน AK102 ได้มาจากเหตุยิงเจ้าหน้าที่ อส.เมื่อปี 2554 โดยเรื่องอาวุธปืนที่ได้ทั้ง 3 กระบอก ต้องส่งไปตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อเหตุการณ์ใดอีกบ้าง

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า กลุ่มขบวนการยังคงมีความพยายามสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่พี่น้องชาวไทยพุทธ และพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ภายใต้พหุวัฒนธรรมมายาวนานเป็นร้อยปี ตั้งแต่ปี 2547 ก็เริ่มที่จะเกิดปัญหาขึ้น ด้วยการพยายามทำร้ายพระสงฆ์แล้วทำร้ายโต๊ะอิหม่าม เพื่อต้องการให้คนสองกลุ่มทะเลาะกันและมีความขัดแย้งจนมีการใช้อาวุธ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายที่อยู่กันมาภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมมีความแตกแยก

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เรื่องการดูแลความปลอดภัยนั้น ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายท่าน ต่างก็แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยหลังเกิดเหตุในครั้งนี้ ได้มีคำสั่งให้ปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อสามารถควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ โดยหลังมีการนำข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงระยะหลังหลายครั้งที่ผ่านมา วิเคราะห์ ล่าสุดพบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุล้วนกลับเข้ามาอาศัยกบดานอยู่ในพื้นที่ ดังนั้นต้องให้กำลังเข้าไปช่วยในพื้นที่ และไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงกำลังภาคประชาชนแต่ละชุมชนหมู่บ้าน ต้องร่วมกันสำรวจแยกแยะคัดกรอง เพื่อเป็นการช่วยตรวจสอบป้องกันไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มก่อเหตุรุนแรงทำร้ายผู้บริสุทธิ์นั้นเข้ามาอาศัยชุมชนหมู่บ้านเป็นที่หลบซ่อนตัว แล้วยังใช้เป็นแหล่งประกอบระเบิดไปก่อเหตุ

ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องเน้นเรื่องสร้างความปลอดภัย ในส่วนของกำลังทหารให้ปรับยุทธวิธีด้วยการจัดเอากำลังส่วนใหญ่ออกไปนอนนอกฐาน เพื่อคอยไปช่วยเหลือชุมชนหมู่บ้าน ตลอดจนตามเส้นทางที่กลุ่มก่อเหตุรุนแรงใช้เป็นการจำกัดเสรีต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปะทะผู้ก่อเหตุร้ายบนเขาดับ 2 คาดเป็นกลุ่มยิงพระ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า