ประเด็นคือ – กรณีพบศพหนุ่มวัย 27 ปี ถูกฆ่าแยกชิ้นหมกป่าจาก ซอยสุขสวัสดิ์ 53 นิติเวชเผยถูกทำร้ายโดยของแข็งไม่มีคม กระดูกขาหักทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลยุบที่ศีรษะ ส่วนรูที่อกยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นรอยกระสุนหรือไม่
จากกรณีที่พบชิ้นส่วนมนุษย์และร่างผู้เสียชีวิตถูกทิ้งหมกไว้บริเวณป่าจากข้างลานจอดรถท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 53 หมู่ที่ 5 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ก่อนที่มีนาย นายสังวาลย์ สีสะใบ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/2 หมู่ที่ 5 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มาดูร่างผู้เสียชีวิตพร้อมยืนยันว่าเป็น นายคมกริช สีสะใบ อายุ 27 ปี ที่หาตัวออกไปจากบ้านเมื่อช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา โดยแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.พระประแดง จนกระทั่งมีผู้มาพบศพ นายคมกริช ถูกฆ่าหมกป่าจากข้างลานจอดรถท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 53 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.60 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง.ผบก.ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดูหลักฐานเพิ่มเติมไปประกอบสำนวนคดี อีกทั้งยังสอบถามพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุและประมวลลำดับเหตุการณ์ของคนร้ายที่ลงมือฆ่าผู้ตาย
ทางด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วพร้อมทั้งเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเข้าร่วมประชุมเพื่อรับมอบหมายในการสืบสวนพร้อมเร่งดำเนินการคลี่คลายคดี ซึ่งได้แบ่งเป็น 3 ทีม ทั้งทีมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง ชุดตรวจสอบในที่เกิดเหตุหาวัสถุพยานและองค์ประกอบอื่นในที่เกิดเหตุและชุดสืบสวนหาข่าว
โดยมี พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง.ผบก.ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สมุทรปราการ เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งในขณะนี้ได้เรียกพยานที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุและพยานที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ตายไปสอบสวนเพิ่มเติมแล้วจำนวน 4 ปาก โดยผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายโดยของแข็งไม่มีคมกระดูกขาหักทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลยุบที่ศีรษะ ส่วนบริเวณรูที่หน้าอกยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นรอยลูกกระสุนปืนหรือไม่เพราะผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ส่วนพื้นปูนใกล้ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นการเทขึ้นมาใหม่นั้นทางเจ้าหน้าที่จะประสานผู้ชำนาญการเข้าตรวจสอบพร้อมทำการรื้อดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่อยู่ใต้ปูนพร้อมเรียกบุคคลที่เทพื้นปูนไปสอบปากคำเพิ่มเติมโดยใช้เวลาสักระยะหนึ่งคาดว่าจะสรุปคดีนี้ได้พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
