พี่ชายซาบีน่า The Face ร้องสื่อรอบ 2 หลังถูกฟันสาหัสคดีไม่คืบ คู่กรณียังวนเวียนขู่ทำร้าย

มาร์ค พี่ชายซาบีน่า The Face Thailand ร้องสื่อรอบสอง หลังคดีถูกบุกฟันถึงบริษัทน้ำของเจ้าตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่คืบหน้า แถมคู่กรณียังวนเวียนให้เห็นเป็นประจำ มิหนำซ้ำยังขู่ทำร้ายหากแจ้งความอีก วอนตำรวจอย่านิ่งเฉยเร่งจับกุมดำเนินคดีด้วย

วันนี้ (18 พ.ค. 61) นายอาชานัย มาร์ค ไมซิงเกอร์ อายุ 25 ปี พี่ชายของ น.ส.อจิรภา ซาบีน่า ไมซิงเกอร์ เจ้าของตำแหน่ง The face Thailand คนแรกของไทยได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง เนื่องจากคดีอดีตลูกจ้างบุกทำร้ายถึงบริษัทจำหน่ายน้ำดื่มของตนเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่คืบหน้า และคู่กรณียังวนเวียนให้เห็นเป็นประจำ มิหนำซ้ำยังถูกขู่ทำร้ายหากแจ้งความอีก

พร้อมกับเปิดเผยอาการบาดเจ็บที่ตนเองรักษาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุรวมระยะเวลากว่า 2 เดือน โดยมีอาการบาดเจ็บบาดแผลถูกฟันลึก 8 ซม. เส้นเอ็นขาด กระดูกหักสองท่อน ทำให้แขนข้างซ้ายยังไม่สามารถใช้งานได้ พร้อมทั้งโชว์บาดแผลที่ถูกคมมีดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุฟัน

แต่จนวันนี้ก็ยังไม่มีตำรวจติดต่อสอบถามแต่อย่างใด จึงเดินทางมาร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้คดีคืบหน้าบ้าง ตนเองรู้สึกเหมือนว่าต้องมาเจ็บตัวฟรี ต้องนอนโรงพยาบาล ตอนนี้ยังพบเห็นคู่กรณียังขับขี่จักรยานยนต์วนเวียนไปมาให้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง และยังข่มขู่อีกด้วยว่าอย่าไปแจ้งความอีก มิฉะนั้นจะไม่จบแค่นี้แน่ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จึงอยากวอนตำรวจช่วยเร่งรัดคดีให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยชีวิตของตนเองด้วย

สำหรับคดีที่นายมาร์คเรียกร้องขอความเป็นธรรม เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยนายมาร์คได้ถูกอดีตลูกจ้างของบริษัทจำหน่ายน้ำดื่มที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิด ซึ่งเคยไล่ออกไปเนื่องจากมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ได้พาพรรคพวกร่วม 10 คน เข้ามาหาเรื่องลูกน้องคนใหม่ ขณะที่นายมาร์คเข้าไปห้ามปรามนั้นก็เกิดมีปากเสียงกันจนถึงขั้นรุนแรง จนนายมาร์คถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่หน้าบริษัทน้ำดื่มของนายมาร์ค ภายในซอยชัยพฤกษ์ 2 ซึ่งก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความพร้อมมอบหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 61 นายมาร์คได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าคดีไม่คืบหน้า ทั้งที่ได้มอบภาพจากกล้องวงจรปิดและรายชื่อผู้ที่ก่อเหตุให้กับตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการเรียกคู่กรณีมาสอบสวน ทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น