ประเด็นคือ – พ่อสามีชักปืนยิงลูกสะใภ้ดับ ส่วนลูกชาย และหลานวัยขวบบาดเจ็บ ก่อนยิงตัวเองตายในพงหญ้าหนีความผิด ปมเหตุเกิดจากความน้อยใจที่ครอบครัวไม่ชอบพาไปเที่ยวด้วย
วันที่ 26 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในหมู่บ้านเดอะฮัมบูร์ก แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. พบศพ น.ส.ปนัดดา อรัญทอง อายุ 26 ปี ในมือขวาถือขวดนมเด็ก นอนเสียชีวิตจมกองเลือด โดยที่พื้นหน้าบ้านมีเลือดหยดกระจายไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบตามร่างกาย พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 บริเวณศีรษะ 1 แผล แก้ม 1 แผล และไหล่ 1 แผล รวม 3 แผล ใกล้กันมีหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว
นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อต่อมา นายพรชัย อริยวงศ์ อายุ 31 ปี ถูกยิงที่บริเวณหน้าท้อง 1 แห่ง และ ด.ช.ธนสาร อริยวงศ์ อายุ 1 ขวบ ถูกยิงที่บริเวณสะโพก โดยทั้ง 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเสรีรักษ์ และที่บริเวณรั้วด้านหลังบ้านเป็นป่าหญ้าขึ้นรกทึบ ยังพบศพ นายจำรัส อริยวงศ์ อายุ 64 ปี สภาพศพ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ศีรษะขวาทะลุซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่
จากการถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน เป็นพ่อแม่ลูกกัน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายจำรัส พ่อสามีของผู้ตาย โดยผู้ตายมักชอบมาบ่นกับตนว่า ทะเลาะกับพ่อสามีอยู่เป็นประจำ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนพูดจาตรงๆ ส่วนสามีผู้ตายเวลาไปเที่ยวก็จะไม่พาพ่อสามีไปด้วย เพื่อป้องกันการทะเลาะกัน นอกจากนี้ พ่อสามีก็มักจะชอบขู่ว่าจะใช้ปืนยิงมาโดยตลอด และมักจะพกปืนเหน็บเอวไว้ตลอดเวลาที่เดินอยู่ภายในบ้าน ครั้งสุดท้ายที่ได้นั่งกินข้าวด้วยกันเมื่อวานตอนเย็น ผู้ตายก็พูดในเชิงสั่งเสีย โดยตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว
ด้าน นายประยุทธ อรัญทอง พ่อของผู้ตาย เล่าว่า ตนจะมาบ้านลูกสาววันเว้นวัน เพื่อช่วยเลี้ยงหลาน และเคยมีโอกาสนั่งคุยกับ นายจำรัส ผู้ก่อเหตุ ซึ่งมักจะบ่นว่าเวลาไปเที่ยวไหนกันไม่ยอมพาตนไปด้วย จึงได้พูดปลอบมาตลอด ส่วนลูกสาวมักชอบพูดกับตนว่าพ่อสามีชอบขู่ฆ่า และมักจะชักปืนขู่ตนตลอดเวลา ซึ่งตนก็พูดกลับไปว่าให้ใจเย็นๆ อย่าคิดอะไรมาก
พ.ต.อ.สุรพล กล่าวว่า สาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าวเกิดจากปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งผู้เป็นพ่อสามีน้อยใจลูกสะใภ้และลูกชายตนเอง ที่เวลาไปเที่ยวที่ไหนไม่ยอมพาตนเองไป โดยหลังก่อเหตุพ่อสามีคงจะกลัวความผิดจึงใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุยิงตนเองตายตาม หลังจากนี้จะรอสอบปากคำสามีผู้ตายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง