พ่อเมาคว้าปืนขู่ ถูกลูกชายชักปืนลูกซองสั้น ยิงสวนดับ

พ่อเมาสุรา ทะเลาะมีปากเสียงกับลูกชาย ก่อนผู้เป็นพ่อคว้าปืนลูกซองยาวออกมา ลูกชายจึงชักปืนลูกซองสั้นที่พกติดตัวยิงใส่ผู้เป็นพ่อจนเสียชีวิต ก่อนยอมเข้ามอบตัว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 61 ร.ต.อ.สืบศักดิ์ ตั้งอนันตชัย ร้อยเวร สภ.พยุหะคีรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 153 หมู่ที่ 11 ต.เนินมะกอก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูพยุหะคีรี

ที่เกิดเหตุ พบศพนายสมชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 49 ปี นอนตายจมกองเลือดอยู่ที่ใต้แคร่หน้าบ้านพัก มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่บริเวณกลางหน้าอก จำนวน 9 แผล ในจุดเกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกซองยาว และปืนลูกซองสั้นวางอยู่บนแคร่อย่างละ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ พร้อมชันสูตรศพ

ในเวลาต่อมาสามารถสืบทราบจากภรรยาของผู้ตายจนรู้ตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุ เป็นบุตรชายแท้ๆ คือ นายทรงพล พูลสวัสดิ์ อายุ 27 ปี หลังก่อเหตุได้ทิ้งปืนลูกซองสั้นไว้และรีบหลบหนีไป

จากการสอบถามนางสมจิต พูลสวัสดิ์ ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีนิสัยชอบดื่มเหล้า และเวลาเมามักจะดุร้าย ชอบทำร้ายตนอยู่เป็นประจำ จนบุตรชายทนไม่ไหว ต้องพาภรรยาย้ายบ้านไปอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้เป็นพ่อ

เเต่วันนี้บุตรชายได้กลับมาบ้านอีกครั้ง เพื่อมาขนย้ายข้าวของอีกบางส่วน แต่ก็ยังไม่วายถูกบิดาที่กำลังนั่งเมาสุราอยู่ที่แคร่ดุด่าต่อว่า จนกระทั่งมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยผู้เป็นบิดาได้นำปืนลูกซองยาวออกมาขู่ด้วย บุตรชายจึงชักปืนลูกสั้นจ่อยิงกลางอกบิดาจนเสียชีวิตคาที่ แล้วทิ้งปืนรีบหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นายทรงพลผู้ก่อเหตุได้เดินทางกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสำนึกผิด พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะที่มีปากเสียงกันอยู่นั้น จู่ๆ บิดาพยายามจะใช้ปืนลูกซองยาวยิงตน ทำให้ตนต้องตัดสินใจชักปืนที่พกติดตัวออกมายิง เพราะเชื่อว่า หากตนไม่ชิงลงมือ จะต้องถูกบิดาใช้ปืนยิงตนก่อนอย่างแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายทรงพลไปสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews