ภาค 1 ตั้งคกก.คลี่คลายคดีทรชนรุมโทรม ด.ญ.12 ปี เร่งตรวจดีเอ็นเอหาหลักฐานมัดตัว

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 (คนกลาง)

ผบช.ภ.1 สั่งคุมเข้มคดี 5 โจ๋ รุมโทรมเด็กหญิง 12 ปี เน้นให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.61 เวลา 13.20น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค1 ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสระบุรี พร้อมเปิดเผยว่า พอดีผ่านมาทำธุระบริเวณใกล้เคียงก็เลยมาร่วมดูความเรียบร้อยในคดีดังกล่าว ส่วนในตัวแม่งานหลักนั้นได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์  วุฒิจรัสธำรง รอง.ผบช.ภ.1 เป็นผู้ดูแลคดีดังกล่าว พร้อมเปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคดีเด็กเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง และต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งตนทราบว่าตอนนี้ ทางวัยรุ่น ทั้ง 4 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่โดยมีหน่วยงานสหวิชาชีพ ร่วมสอบสวนที่ อัยการจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นเร็วๆนี้

ทั้งนี้ขอให้สื่อช่วยลงข่าวเกี่ยวกับการดูแลลูกหลานให้พ่อแม่ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นวิธีหนึ่งที่เราจะช่วยปัญหาเรื่องแบบนี้ได้อีกทาง พร้อมกล่าวเสริมว่าทางด้านเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายโดยไม่มีอำนาจไดๆเข้ามาครอบงำ

ขณะที่พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ลงพื้นที่บริเวณร้านขายของจิปาถะทุกอย่าง 10 บาทอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุเยาวชนทั้ง 5 คน ที่ ก่อเหตุรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี เพื่อนำไปเปรียบเทียบและดูถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุประกอบในคดีเพิ่มเติม

พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในรูปของภูธรจังหวัดเข้ามาคลี่คลายในคดีนี้ โดยมีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขณะนี้ตำรวจได้ส่งพนักงานสอบสวนหญิงและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพไปร่วมสอบสวนทั้งฝ่ายของผู้เสียหายและฝ่ายของผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินการเร่งรัดให้มีการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ส่วนเรื่องของการออกหมายจับนั้น หากตัวของผู้ก่อเหตุมาพบคณะพนักงานสอบสวนก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากไม่มาพบก็จะดำเนินการขอศาลอนุมัติหมายจับ

พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1

ส่วนเรื่องของพนักงานสอบสวนที่มีกระแสข่าวว่าโทรศัพท์หาพ่อของผู้เสียหายในทำนองสงสารตัวเยาวชนทั้ง 5 คนที่ก่อเหตุนั้น ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วโดยให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการหากพบว่ามีการกระทำจริง ก็ต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาและคดีนี้เป็นคดีละเอียดอ่อนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่พร้อมให้ประชาชนเชื่อมั่น การทำงานของตำรวจ

นอกจากนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในร้านที่เกิดเหตุเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้าที่ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ยั งไม่มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุหรือดีเอ็นเอของผู้ต้องเสียหายและผู้ที่ก่อเหตุเลย ซึ่งนอกเหนือจากการตรวจสอบภายในร้านที่จะหาสารหล่อลื่นและเส้นผมหรือเส้นขนต่างๆที่อาจจะตกในที่เกิดเหตุแล้ว แต่จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากร้านค้าที่เป็นสถานที่ก่อเหตุไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของนำตรวจค้นและเจ้าของร้านอยู่ต่างจังหวัดทำให้ตำรวจไปสามารถเข้าไปตรวจค้นภายในได้

อย่างไรก็ตาม ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังแบ่งออกเป็นหลายทีมในการไปตรวจสอบดีเอ็นเอของเยาวชนทั้ง 5 คนและผู้เสียหายถึงบ้านพักเพื่อไปตรวจสอบในการประกอบสำนวนคดีด้วย เพื่อความแน่นหนาของสำนวนในการเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย

นอกจากนี้มีรายงานว่า นายสังวาลย์ สิทธิปัญญา ซึ่งตำเหน่งเป็นประธานสภา อบต. ผึ่งรวง อ.เฉลิมพระเกียรติ์ จ.สระบุรี และยังเป็นบุคคลที่ มีการเอ่ยนามในโลกโชเชียล ในคลิปการทำร้าย 5 โจ๋ รุมโทรมเด็กหญิง ในระหว่างมีการเคลียเจรจาปัญหาค่าค่าใช้จ่ายเรื่องดังกล่าว ที่เผยแพร่ว่ามี อบต.เป็นผู้ที่จะมาเคลียค่าเสียหาย จนเป็นข่าวที่โด่งดังนั้น  นายสังวาล สิทธิปัญญา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยยื่นหนังสือการลาออกกับ นายกกชัย ฉายรัศมีกุล นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ์ จ.สระสระบุรี  เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากถูกกดดันจากกระแสสังคมอย่างหนัก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• บังคับให้ลาออก! “ประธานสภาท้องถิ่น” ไกล่เกลี้ยโจ๋รุมโทรมเด็ก 12 ปี
• กองปราบ ลุยทำคดีรุมโทรมด.ญ.วัย 12 ปี-ผบ.ตร. สั่งเด็ดขาด “ไม่มีการวิ่งเต้น”
• กระทรวงยุติธรรม เร่งช่วยเด็กหญิงวัย 12 ปี ถูก 5 วัยรุ่นรุมโทรม
• สระบุรีวุ่น! ลือนำ 5 โจ๋ รุมโทรมด.ญ.12 ปี ชี้จุดเกิดเหตุ ชาวบ้านนับร้อยรอรุมประชาทัณฑ์