ประเด็นคือ – คืบหน้า คนร้ายปล้นรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกข้าวสาร 20 ตัน ที่บุรีรัมย์ ล่าสุด มือปืนกระหน่ำยิงคนขับเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม เข้ามอบตัวแล้ว
วันที่ 7 ต.ค. 60 ความคืบหน้า เหตุการณ์คนร้ายขับรถกระบะไล่ตามประกบ รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกข้าวสาร 20 ตัน จากจังหวัดนครนายก มุ่งหน้ามาส่งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเพื่อขู่ให้จอดรถ จากนั้น นายสุวัตร์ ทบหลง คนขับรถพ่วงได้กระโดดลงจากรถเพื่อวิ่งหนีลงทุ่งนา แต่คนร้ายยังไล่ตามยิงจนอาการสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา จากนั้นคนร้ายได้ถอดพ่วงลูกออกจอดทิ้งไว้ข้างถนน แล้วขับเอาตัวพ่วงแม่ซึ่งบรรทุกข้าวสาร 10 ตันหลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนสายปะคำ – โนนดินแดง ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 คน คือ นายกำพล เขจรรักษ์ อายุ 28 ปี คนขับตัวพ่วงแม่หลบหนีมาจอดทิ้งไว้ในป่า พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และ นายสัญญา สุริยะบุญ อายุ 43 ปี พี่เขย ที่นายกำพล นำอาวุธปืนมาซุกซ่อน ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ได้ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า” และส่งฝากขังที่ศาลนางรอง
ส่วนนายบุญครอง จงจำ หรือแจ๊ค อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญที่เป็นคนใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายสุวัตร์ คนขับรถพ่วงเสียชีวิตที่ยังหลบหนี ล่าสุดญาติได้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ต่อมา พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง โดยมี พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผกก.สภ.ปะคำ พ.ต.ท.ชิษณุพงษ์ เถียรกิตติพงษ์ รอง ผกก.สส. สภ.ปะคำ ท้องที่เกิดเหตุ ร่วมในการสอบสวนด้วย
โดยเบื้องต้นนายบุญครอง ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง โดยได้ซัดทอดว่านายกำพล เขจรรักษ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้เป็นผู้ว่าจ้างด้วยเงิน 15,000 บาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน เพราะต้องการชิงรถพ่วงคันดังกล่าว อีกทั้งนายกำพลยังเป็นผู้วางแผนก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปบ้านญาติที่ บ.หนองตาเยา ต.หนองแวง อ.ละหานทราย และหลบเข้าไปอยู่ในป่า กระทั่งญาติได้พาเข้ามามอบตัวในวันนี้ ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์ และพยายามฆ่า”