มูลนิธิเวิร์คพอยท์ มอบหน้ากากอนามัย 1.5 หมื่นชิ้น ให้ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เพื่อนำไปแจก ปชช.

มูลนิธิเวิร์คพอยท์ ได้นำหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นจำนวน 1.5 หมื่นชิ้น มอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปแจกให้กับเจ้าหน้าที่ และประชาชนต่อไป

วันที่ 3 เม.ย. 62 นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการรับหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นควัน จำนวน 15,000 ชิ้น ที่ทางมูลนิธิเวิร์คพอยท์นำมามอบให้ ณ ศูนย์บัญชาการแก้ไขและป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเวิร์คพอยท์ร่วมใจ ต้านไฟ ต้านฝุ่น ที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องทางภาคเหนือที่กำลังประสบปัญหาฝุ่นละอองอยู่ในขณะนี้

โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณทางที่เวิร์คพอยท์เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานลาดตระเวนดับไฟป่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยง กำลังขาดแคลนหน้ากากอนามัยอีกจำนวนมาก และยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพ ซึ่งวันพรุ่งนี้จะนำหน้ากากอนามัยทั้งหมดมาบริหารจัดการ ก่อนส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

ส่วนสถานการณ์หมอกควันล่าสุด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า จากการตรวจสอบจุดฮอทสปอตลดลงไปกว่า 400 จุดตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่ยังมีเพิ่มขึ้นมาใหม่อีกประมาณ 107 จุด แต่ภาพรวมถือว่าเป็นไปในทิศทางบวก และสั่งการให้เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

โดยวันนี้ คุณธนภัทร ติรางกูล ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้ลงพื้นที่ไปยัง อ.แม่ริม และ อ.สะเมิง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง เเละได้พบกับ พระไพรโรจน์ พลญาโณ พระประจำสำนักสงฆ์ปางป่าคา ที่ตั้งอยู่กลางป่าใน ต.แม่อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้เพียงรูปเดียวมากว่า 10 ปี ซึ่งบอกว่า ต้องเผชิญกับไฟป่ามาตลอดทุกปี และล่าสุดเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้มีคนลักลอบเผาป่าบริเวณข้างวัด เพื่อหวังเก็บของป่าและล่าสัตว์ จนเกือบลุกลามเข้ามาถึงพื้นที่ป่าช้าและศาลาบางจุด แต่ตนสามารถดับไฟไว้ได้ทัน จึงอยากวิงวอนขอให้ผู้ก่อเหตุมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงเขตศาสนสถานด้วย

พระไพรโรจน์ เล่าต่ออีกว่า ถึงแม้ไฟป่าจะทำให้ตนปฏิบัติกิจสงฆ์อย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่เคยคิดหนีไปจำพรรษาที่วัดอื่นซึ่งมีความเจริญกว่านี้ เนื่องจากมีความผูกพันกับญาติโยมในพื้นที่มากว่า 10 ปี และต้องการอยู่เป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคนในชุมชน