ยิงถล่ม 13 นัด คาราโอเกะสุพรรณบุรี ที่ยังไม่เปิดให้บริการ ชาย 60 ปีถูกลูกหลงดับ

เกิดเหตุยิงถล่มร้านเหล้าริมถนนสายไผ่ขวาง-สุพรรณบุรี ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ที่ยังไม่เปิดให้บริการ พบปลอกกระสุนเกลื่อนบนถนน 13 นัด โดยถูกช่าง วัย 60 ปี นั่งคุยธุระอยู่หน้าร้าน ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตต่อมาในภายหลัง

 วันนี้ (5มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.หญิงบุษกร วงศาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากเหตุใช้อาวุธปืนยิง มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ร้านคาราโอเกะไม่มีชื่อริมถนนสายสุพรรณบุรี-ป่าโมก  หมู่ 4 ต.ไผ่ขวาง ขาเข้าสุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมพู รอง ผกก.สอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กำลังสายตรวจรถยนต์รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี

จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุบริเวณร้านคาราโอเกะไม่มีชื่อ พบรอยกระสุนเจาะเข้าที่กระจกหน้าร้านและผนังปูนหน้าร้าน รถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอด 2 คัน ได้รับความเสียหาย ส่วนคนเจ็บที่ถูกยิงเพื่อนได้นำส่ง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อนายเสถียร คงวิเชียร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/1 หมู่ 1 ต.วังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่กลางหลัง จำนวน 3 นัดทะลุ ต้นแขนขวา 1 นัด อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนที่บนถนนฝั่งขาเข้า อ.ป่าโมก พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนจำนวน 13 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน เบื้องต้นได้ความว่านายเสถียร ซึ่งประกอบอาชีพขับรถรับจ้างส่งปลา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมเพื่อน 34 คน ได้มานั่งพูดคุยธุระอยู่ในร้านคาราเกะดังกล่าว ซึ่งยังไม่ได้เปิดให้บริการ และอยู่ห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร ขณะที่กลุ่มผู้ตายกำลังคุยกันอยู่ในร้านได้มีพยานเห็นคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสียี่ห้อ มาจอดอยู่ริมถนนจากนั้นคนร้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นที่พกมากระหน่ำยิง เข้าไปในร้าน หลังจากกระหน่ำยิงจนหนำใจแล้ว คนร้ายจึงเร่งเครื่องหลบหนีไปตามเส้นทางมุ่งเข้า อ.ป่าโมก

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี สั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จ.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี พร้อมกับสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและคงไม่ใช่คู่กรณีของคนร้ายแต่บังเอิญโชคร้ายถูกลูกหลง เนื่องจากนั่งหันหลังออกมาทางถนนและนั่งติดกับผนังปูน ส่วนเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกันไม่มีใครได้รับอันตราย