ลูกเขยเจ้าของโรงเเรม ยิงเจ้าของร้านข้าวต้ม ดับรวม 3 ศพ เหตุเสียงดัง

ประเด็นคือ – ลูกเขยเจ้าของโรงแรม ลากปืนสังหาร เจ้าของร้านข้าวต้ม ตายคาที่ 3 ศพ เหตุมาจากเปิดเพลงเสียงดัง ทำให้ลูกค้าเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมกลางดึก ส่งผลให้โรงแรมขาดรายได้

วันที่ 5 ม.ค. 61 พล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยจิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน จาก สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ว่า เกิดเหตุยิงกันตาย บริเวณร้านข้าวต้ม 25 น.และโรงแรมเรือนแฝด 2 ติดถนนหลวงหมายเลข 1095 ปาย – เชียงใหม่ หมู่ 8 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ

https://www.youtube.com/watch?v=xxG0WrGFzPc

โดยจากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.รัชพล นุ้ยป้อม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปาย ได้รับแจ้งเหตุจากนายกิตติ อภัยภักดี ซึ่งเป็นลูกเขยเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 ที่อยู่ติดกับร้านข้ามต้มดังกล่าว แจ้งเหตุว่าตนได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. และ ปืนลูกซองยาว ยิงนายบัณฑิต จิระธนดล เจ้าของร้านข้าวต้ม 25 น. , นางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ ภรรยานายบัณฑิต และ นายธนากร วิทยาบำรุง จนเสียชีวิตคาที่

โดยก่อนเกิดเหตุ ได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณหน้าโรงแรมเรือนแฝด 2 ทำให้นายบัณฑิต จิระธนดล (เจ้าของร้าน) และนายธนากร วิทยาบำรุง (ลูกจ้างในร้าน) ได้ไปต่อว่านายกิตติ ทำให้นายกิตติใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงใส่นายบัณฑิต และนายธนากร จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นนายกิตติได้กลับเข้าไปในห้องแล้วนำปืนลูกซองยาวเดินมาที่ร้านข้าวต้ม 25 น. และใช้อาวุธปืนยิงนางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ (ภรรยา นายบัณฑิต) จนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3

ทั้งนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนหน้านั้น นายกิตติได้เคยมีปากเสียงกับนายบัณฑิต เจ้าของร้านข้าวต้มมานานนับปี สาเหตุมาจากเรื่องเสียงดังในร้านข้าวต้ม ไปรบกวนแขกที่พักโรงแรม จนแขกต้องเช็คเอ้าท์ออกโรงแรมกลางดึก ส่งผลให้โรงแรมขาดรายได้ นอกจากนั้นแขกที่มาทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม ส่วนใหญ่จะมีอาการมึนเมากินเหล้าและข้าวต้มส่งเสียงดังมาก รวมไปถึงแขกส่วนหนึ่งนำรถไปจอดในที่จอดรถของโรงแรม ทำให้ผู้เข้าพักเมื่อกลับมาไม่มีที่จอดรถ ทำให้นายกิตติเกิดความเครียดสะสม จนกระทั่งก่อเหตุโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในครั้งนี้

ขณะที่ นางอาภรณ์ แสงโชติ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอปาย เปิดเผยหลังจากได้ทราบข่าวดังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการบังคับใช้กฎหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่เข้มงวดและเสมอภาค ส่งผลกระทบในระยะยาว

ทั้งนี้ สถานบันเทิงหลายแห่งในเมืองปาย ส่วนใหญ่เปิดเกินเวลา และหลังจากนั้นก็จะพากันไปกินเหล้าต่อที่ร้านข้าวต้ม  ซึ่งเสียงของกลุ่มคนที่เมามายในยามวิกาลและเลยเวลาจนเกินไป ส่งผลกระทบต่อสุจริตชนที่อาศัยข้างเคียง จนเกิดการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้จะต้องมีการแก้ไขให้เป็นรูปธรรม โดยในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการและสมาชิกสภาวัฒนธรรมปาย เพื่อหาทางออก และอาจจะมีการจัดเวทีเสวนา โดยเชิญเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องมาลงสัตยาบันเพื่อปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นเมืองปายจะลุกเป็นไฟ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง