ยึด 17 รีสอร์ท บนเกาะพยามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

ประเด็นคือ – เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน สนธิกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ทบ้านพักจำนวน 17 แห่ง ที่อาจจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและบางส่วนของป่าชายเลน บนเกาะพยาม

วันนี้ (วันที่ 13 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย สุกใส ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงาน สนธิกำลังรวม 35 นาย เดินทางไปที่ ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อทำการตรวจสอบรีสอร์ทบ้านพักจำนวน 17 แห่ง ที่อาจจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและบางส่วนของป่าชายเลน  ซึ่งการเข้าตรวจสอบครั้งนี้จะทำการตรวจสอบรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศจำนวน 17 แห่ง ซึ่งต้องใช้เวลา 2 วัน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำกัด และมีเนื้อที่ต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้านนายศุภชัย กล่าวระหว่างการตรวจสอบว่า เบื้องต้นพบรีสอร์ทบางแห่งมีการขยายพื้นที่จากที่ถือครอบครองอยู่เดิม ซึ่งเจ้าของอ้างว่าไม่ทราบเนื่องจากคิดว่าอยู่ในพื้นที่ซึ่งอยู่ในการครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดพร้อมตรวจสอบ โดยให้เจ้าของพื้นที่รับทราบด้วย ซึ่งผู้ที่ทำการขยายที่เพิ่มก็พร้อมที่จะยอมคืนพื้นที่ให้แก่รัฐ

ทั้งนี้ นายศุภชัย กล่าวต่อว่า พื้นที่ที่เข้าตรวจสอบทั้ง 17 แห่งนี้ เจ้าของมีการถือครองด้วยสิทธิถือครองที่ทำกิน (สทก.) โฉนดชุมชน และ หนังสือ สปก. ซึ่งการตรวจสอบจะดูเรื่องที่ว่าที่ดินดังกล่าวมีร่องรอยการทำกินหรือไม่ เช่นการปลูกพืชอาสินต่างๆ และเจ้าของที่ถือครองมีการเปลี่ยนมือกันหรือไม่ ซึ่งการเปลี่ยนมือต้องจำแนกว่าเป็นการเปลี่ยนมือโดยตกเป็นมรดกแก่ทายาท ซึ่งถือว่าไม่ผิด แต่ถ้าหากเป็นการขายต่อให้กับคนนอกถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย

โดยครั้งนี้หากพบความผิดเจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจยึด ขอคืนพื้นที่กลับมาเป็นของรัฐ แต่หากเจ้าของต้องการที่จะต่อสู้ทางกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการเช่นกัน ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบทั้ง 17 แห่งแล้ว ก็จะนำข้อมูลที่ตรวจสอบได้ทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการที่ประชุมระดับจังหวัดชุดแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่เกาะพยาม เพื่อดำเนินการทางกฎหมายและทำการขอคืนพื้นที่ในส่วนที่กระทำผิดต่อไป