รถตู้พุ่งชนต้นไม้ ครูนราธิวาส ดับ 4 เจ็บ 9 คาดคนขับหลับใน

เกิดเหตุรถตู้โดยสารพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสายเพชรเกษม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่จำนวน 4 ราย บาดเจ็บอีก 9 ราย

วันที่ 10 เม.ย. 2562 เวลา 04.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ไพบูลย์ เกื้อดำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บาเจาะ ได้รับแจ้งเหตุรถตู้โดยสารชนต้นไม้ ริม ถ.สายเพชรเกษม ช่วงเยื้องทางเข้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 9 ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสาร สีบรอนส์ สภาพได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้าทั้งแถบ และมีจำนวนผู้โดยสาร 13 คน เสียชีวิต 4 ราย ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ติดอยู่ภายในรถ

เจ้าหน้าที่กูภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่าง ในการงัดและตัดชิ้นส่วนด้านหน้าของรถยนต์ตู้ ทั้งบานประตูและส่วนของหลังคาที่ยุบลงมาทับผู้โดยสารออก จึงจะสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถตู้ออกมาได้ก่อนที่จะรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะ จำนวน 3 คน คือ 1.น.ส.นาเดีย ยะลา อายุ 31 ปี 2.น.ส.อามีเนาะ นิตีมุง อายุ 31 ปี  และ 3.นายวิสุทธิ์ อังษานาม อายุ 36 ปี คนขับรถ

และส่งรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 6 คน คือ 1.น.ส.อามีดะห์ ดาโอะ อายุ 40 ปี 2.น.ส.สากีย๊ะ มะเซ็ง อายุ 46 ปี 3.น.ส.อานาตี มะนอ อายุ 30 ปี 4.น.ส.รอดียะห์ วาแฉะ อายุ 27 ปี 5. นางสุภาภรณ์ แนหะ อายุ 40 ปี และ 6.น.ส.สารีพัน เจ๊ะเต๊ะ อายุ 21 ปี อย่างเร่งด่วน

พร้อมทั้งได้ช่วยกันนำร่างของผู้เสียชีวิต จำนวน 4 คน ออกจากรถ ทราบชื่อคือ 1. น.ส.มาดีฮะห์ ฮะยารือสะ อายุ 30 ปี 2.น.ส.สาลีมะห์ มูฮ์ญิดดีน อายุ 41 ปี 3.น.ส.กามีลา นิจะ อายุ 27 ปี และ4. น.ส.สูฮานา สะมะแอ อายุ 30 ปี

ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการเหยียบเบรกของรถตู้ ลักษณะคล้ายรถตู้เสียหลักแล่นไปชนกับต้นไม้ริมถนน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวิสุทธิ์ คนขับรถ ได้รับการว่าจ้าง ให้ไปรับคณะครูโรงเรียนดารุสสลามซึ่งเป็นหญิงล้วน จำนวน 12 คน ที่กลับจากการเดินทางไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนสอนศาสนาในประเทศมาเลเซีย ที่บริเวณด่านสะเดา จ.สงขลา เพื่อเดินทางกลับพื้นที่ จ.นราธิวาส

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุนายวิสุทธิ์ เกิดหลับในรถได้แล่นเสียหลักไปชนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมถนน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนนายวิสุทธิ์ อย่างละเอียดอีกครั้งถึงข้อเท็จจริง ก่อนจะควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป