รวบลูกสมุน “พล.ต.ขัตติยะ” ฆ่ารัดคอสาวคาราโอเกะ สารภาพเหตุหึงหวง

ตำรวจกองปราบ บุกจับกุม “ลูกสมุน เสธ.แดง” ก่อคดีฆ่ารัดคอสาวคาราโอเกะ สารภาพเพราะหึงหวงฝ่ายหญิงมีชายอื่น

ตำรวจกองปราบปรามบุกจับกุม นายสุรชัย หรือ หรั่ง,รัก เทวรัตน์ อายุ 34 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 25 พ.ย. 2561 ที่กระท่อมสวนยางพาราแห่งหนึ่ง ม.9 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก วันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสุรชัย ใช้กำลังและถังแก๊สทุบตีทำร้ายร่างกาย น.ส.แววดาว ภูวงศ์ อายุ 23 ปี ชาว จ.ขอนแก่น แฟนสาว ก่อนใช้สายยางถังแก๊สรัดคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตภายในห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และได้เขียนจดหมายฝากคำขอโทษวางไว้หน้าอกผู้ตายแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นพบปมสังหารจากความหึงหวง เนื่องจากผู้ตายเป็นพนักงานร้านเมืองแก้วคาราโอเกะ มักมีชายหนุ่มมาติดพันหลายคน จนทำให้มักมีมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงหลายครั้ง

จากการสอบสวน นายสรุชัย ให้การรับสารภาพว่า ระหว่างที่ตนกำลังหลบหนีคดีตามหมายจับค้างเก่าอยู่ได้มาพบเจอกับ น.ส.แววดาว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ ได้คบหาและอยู่กินกันแบบสามีภรรยามาประมาณ 6 เดือน กระทั่งช่วงหลังตนจับได้ว่า น.ส.แววดาว มีชายหนุ่มมาติดพันและพยายามตีตัวออกห่างจากตน ด้วยความหึงหวงจึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงขึ้น ก่อนบันดาลโทสะพลั้งมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากก่อเหตุ ตนสำนึกผิดต่อสิ่งที่ทำและได้เขียนข้อความข้อโทษลงบนกระดานฟิวเจอร์บอร์ดแล้วนำไปวางไว้บนหน้าอกของ น.ส.แววดาว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.จอหอ ท้องที่เกิดเหตุรับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับประวัติของนายสุรชัย อดีตเป็นลูกน้องคนสนิท หรือ มือขวาของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ช่วงเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง เมื่อครั้งเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองปี 2553 และมักอยู่ข้างกายกับ เสธ.แดง ตลอดเวลา โดยช่วงที่ เสธ.แดงถูกยิงเสียชีวิต นายสุรชัยยังเป็นคนอุ้มร่าง เสธ.แดงไปส่งโรงพยาบาลอีกด้วย ที่ผ่านมาเคยก่อคดีก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคดีอาญามากมายหลายคดี ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เนื่องจาก มีนิสัยก้าวร้าว หัวรุนแรง และมักใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งคดีส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการหลบหนี

กระทั่งเมื่อเสธแดงเสียชีวิต นายสุรชัย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวตามพื้นที่ต่างจังหวัด และด้วยความที่มีนิสัยเจ้าชู้จึงมีภรรยาหลายคน มักทำทีเข้าไปตีสนิทหญิงสาวในเชิงชู้สาวผ่านทางสื่อโซเชียล เพื่อหลอกเอาเงินมาใช้ในชีวิตประจำวันขณะหลบหนี หากไม่มีเงินให้นายสุรชัยก็จะใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ก่อนจะตีจากไปหาหญิงสาวรายอื่น

ทั้งนี้ เมื่อปี 2552 นั้น ได้ก่อคดี ทำร้ายผู้อื่นและบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหลบหนี กระทั่งถัดมาในปี พ.ศ.2553 นายสุรชัย ได้ก่อเหตุใช้ปืน เอ็ม 79 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี บริเวณแยกศาลาแดง ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจำนวน 2 นาย จากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนถูกออกหมายจับโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามหมายจับศาลอาญา จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย คดี “ก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” กับ คดี “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีและใช้เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัสและมีผู้ถึงแก่ความตาย” ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี กระทั่งถัดมาในปี 2560 นายสุรชัย ยังได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีพยายามฆ่าโดยไตร่ตรอง ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา อีกด้วย ก่อนจะมาก่อเหตุล่าสุดดังกล่าว