รวบหนุ่มเผารถ 7 คัน เพื่อนบ้านเผย คนร้ายเคยเป็นเศรษฐี 30 ล้านจริง

ประเด็นคือ – จากเหตุการณ์หนุ่มเผารถเสียหายเกือบ 10 คัน ช่วงตี 3 ครึ่ง ของวันที่ 26 มี.ค. 61 ล่าสุด ตำรวจตามจับตัวได้แล้ว คนร้ายอ้างเป็นสายลับ มีหน้าที่ตามจับแชร์ลูกโซ่ ขณะเพื่อนบ้านเผย คนร้ายเคยเป็นเศรษฐี 30 ล้านจริง

เมื่อเวลา 03.30 น. ของวันที่ 26 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพนาทีที่คนร้ายจุดไฟเผารถ ริมถนนศุขประยูรขาเข้า จ.ชลบุรี หมู่ 2 ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เอาไว้ได้

โดยคนร้ายเป็นชาย รูปร่างท้วม ไว้ผมยาว ใส่เสื้อเชิ้ต สวมกางเกงยีน สะพายกระเป๋า ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน มาจอด แล้วใช้น้ำมันราดรถยนต์ หลังจากนั้นก็จุดไฟเผาทันที ก่อนที่จะขี่รถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถที่เสียหายรวม 7 คัน

https://youtu.be/nGGHRmqOEKM

ตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงได้กระจายกำลังจนจับตัวผู้ก่อเหตุได้คือ นายวสิทธิ์ นันทิวัชวิภา อายุ 29 ปี ชาว จ.ชลบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คฉล 45 ชลบุรี และถังน้ำมันที่ก่อเหตุ ก่อนคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรพานทอง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาพบว่า ผู้ต้องหามีสติค่อนข้างไม่สมประกอบ พร้อมอ้างว่าเป็นสายลับ มีหน้าที่ตามจับแชร์ลูกโซ่ และที่ไปก่อเหตุเผารถถึง 7 คัน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกด่าทอเป็นประจำ ทั้งที่เป็นคนของราชการ

นอกจากนี้ จากคำบอกเล่าของคนรู้จักพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ พ่อกับแม่ได้ทิ้งมรดกเป็นที่ดิน จนนำไปขายได้เงิน จำนวน 32 ล้านบาท แต่ได้เอาไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไปเปิดคลับ เสพยา เลี้ยงเพื่อน จนเงินหมด และทำให้มีสติเพี้ยน มักจะชอบอ้างตัวเป็นสายลับ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม สมนวย มีสิริ อายุ 61 ปี ชาวบ้านใกล้เคียง ก็พบว่า ผู้ต้องหาอยู่บ้านไม้สองชั้น และทราบว่าก่อนหน้านั้น นายวสิทธิ์ ผู้ต้องหา มีเงินกว่า 30 ล้านจริง ที่ได้จากผู้เป็นพ่อขายที่ให้ แต่ได้มีการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้เงินหมดไปในที่สุด อีกทั้งเมื่อ 2 ปีก่อน ยังได้มีภรรยาและมีลูกด้วยกัน แล้วได้เลิกกันไป เนื่องจากผู้ต้องหามีนิสัยก้าวร้าว

ด้านตำรวจเผย ได้มีการนำตัวนายวสิทธิ์ไปตรวจปัสสาวะ เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดภายในร่างกาย และจะให้โรงพยาบาลพานทองตรวจว่า มีความผิดปกติด้านสมองและจิตใจหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการบำบัดต่อไป