รวบแล้ว!! โจรบุกบ้านผู้ใหญ่บ้านอ่างทอง

ประเด็น – จากกรณีที่ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปมัดมือนางสาวพรนิภา คงใหญ่ อายุ 43 ปี ภายในบ้านเลขที่ 99หมู่ 3 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ก่อนผู้ใหญ่พรนิภาจะดิ้นหลุดแล้วชักปืนขนาด 9 มม.กระหน่ำยิงคนร้ายจนหนีกระเจิงนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด (วันที่ 11 ธ.ค. 60) พล.ต.ต.สุรินทร์ ทับพันบุบผา ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อ่างทอง ลงพื้นที่ยังโรงพยาบาลต่าง ๆว่าหากมีคนได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงให้แจ้งกลับมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่ง ทางโรงพยาบาลอ่างทองแจ้งไปว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบพบว่าผู้บาดเจ็บดังกล่าว คือ นายมนตรี บุญเช็ค อายุ 32 ปี จึงนำกำลังควบคุมตัวไว้

ก่อนที่จะนำกำลังไปตรวจสอบยังบ้านพัก ในการตรวจสอบพบรอยเลือดหยดอยู่ในบ้านและบริเวณข้างบ้านเป็นจำนวนมาก และพบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และเครื่องสูบน้ำ ซุกซ่อนอยู่ และที่บริเวณบ่อน้ำข้างบ้านตรวจสอบเห็นฝากระโปรงรถโผล่อยู่ จึงประสานให้เจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยอ่างทองนำกำลังนักประดาน้ำมางมตรวจสอบในบ่อน้ำ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมพบชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ จำนวนหนึ่งถูกทิ้งไว้ในบ่อ จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำขึ้นมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่ผู้ใหญ่พรนิภา เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ (9 ธ.ค 60) ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังพักผ่อนอยู่บนบ้าน ระหว่างที่นอนพักอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับที่คอ ก่อนที่จะเห็นคนร้ายซึ่งเป็นชายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า มาพูดถามหาทรัพย์สินและปืนของตนว่าอยู่ที่ไหน ก่อนที่คนร้ายได้จับตนมัดมือ มัดเท้า มัดปาก และพูดขู่ตนว่าอย่าขัดขืนหากขัดขืนจะถูกเพื่อนของคนร้ายอีกคนหนึ่งแทง

จากนั้นคนร้ายก็ได้ลงไปชั้นล่างเพื่อรื้อค้นทรัพย์สินของตน ซึ่งตนก็ได้ใช้จังหวะนั้นพยายามแกะเชือกที่มัดตนไว้จนหลุด และได้ไปคว้าปืนประจำตัวของตนยิงสวนเข้าไป ก่อนที่คนร้ายจะได้วิ่งหลบหนีออกไป

ด้าน พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวว่า นายมนตรีนั้นได้แจ้งกับทางแพทย์ที่รักษาว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกเหล็กแทง แต่เมื่อทางโรงพยาบาลเอ็กซเรย์ดูกลับพบว่านายมนตรีนั้นถูกยิงที่แขนจำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังใน จึงอายัดตัวและทำการสอบสวน

เบื้องต้นนายมนตรีไม่ยอมรับ แต่เมื่อสอบเค้นจึงยอมรับสารภาพ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มานั้นได้กระเด็นหายไประหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี โดยรับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนและดำเนินคดีตากฎหมายต่อไป