Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจสนธิกำลังจับ 3 หัวโจก โพสต์เฟซบุ๊กชักชวนแข่งรถ จยย. ก่อนไลฟ์สด บริเวณถนนราชดำเนิน รอบอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ยึด จยย. 42 คัน บิ๊กไบค์ 38 คัน และควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้ 56 ราย

วันที่ 10 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. ที่บริเวณลานหน้าห้างศูนย์การค้าโชว์ดีซี ถนนจตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. 5 บก.จร. พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร. และ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจ บช.ทท. ตำรวจ บก.น.1 ตำรวจ บก.สปพ. ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ บก.จร. ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.1 สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ถ่ายทอดสดและโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนให้เด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ หลายแขนง

พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว โดยในวันนี้ (10 พ.ย. ) ได้ทำการกวาดล้างจับกุมเกี่ยวกับคดีลักษณะนี้

ด้าน พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวว่า โดยมีกรณีเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีเด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่ม มั่วสุมกันแข่งรถในทางสาธารณะมีจำนวนกว่า 100 คัน ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากบนถนนราชดำเนิน บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีภาพและวิดีโอปรากฏไปตามสื่อต่างๆ ต่อมาชุดปฏิบัติการปราบปรามกวดขันการแข่งรถในทางสาธารณะของ ตร. ร่วมกับ บก.จร. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐานจนทราบว่าหัวโจกที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันในรถ คือ เพจ “สจ.บางซ่อนฯ” โดยมี นายก้องเกียรติ์ กิรติอิสริยะกุล เป็นเจ้าของเพจ และเพจ “แม็ก ดินแดง” โดย นายชัยณรงค์ ถ่ายพงษ์ เป็นเจ้าของเพจ ได้โพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวกันตามวัน เวลา ดังกล่าว ซึ่งต่อมาชุดปฏิบัติการจึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงดุสิต จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

จากนั้นทางตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากภาพที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิด จนได้พยานหลักฐาน ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะรวมกลุ่มมั่วสุมในคืนวันปิยมหาราช พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งหมายเรียกนำผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้ง 19 ราย และวันนี้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 5 ราย หลังจากนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 ปฏิบัติการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกวดขันและป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะซึ่งมีผลการปฏิบัติ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับ จำนวน 1 ราย จากการสืบสวนทราบว่ามีเพจ เฟซบุ๊กชื่อ “เบียร์ลาย ห้วยขวาง” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ย่านถนนราชดำเนิน บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ในพื้นที่กรุงเทพฯ

โดยในการแข่งขันครั้งนี้ มีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟซบุ๊ก และมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นายนภสินธุ์ สุทดิศ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ 83 เพจที่ 99 ที่มีการถูกปิดไป

นอกจากนี้ ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 18 ร้าน และยึดท่อไอเสียไว้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ สมอ. จำนวน 13 รายการ และมีการวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) โดยตรวจรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จำนวนทั้งหมด 101 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนด จำนวน 63 คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน รวมทั้งยังสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จำนวน 80 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 42 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 38 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 17 ราย ผู้ใหญ่ 39 ราย รวมทั้งหมด 56 ราย

พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ บก.น.1 ให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า