รำลึก 50 ปี ทหารอเมริกันสังหารหมู่พลเรือนเวียดนาม

เวียดนามจัดพิธีรำลึก 50 ปี เหตุสังหารหมู่พลเรือนที่หมู่บ้านหมีลาย เสียชีวิตหลายร้อยคน แม้จะต้องเผชิญกับความโหดร้ายในอดีต แต่วันนี้ เวียดนามกับสหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกัน

วันที่ 16 มีนาคม 2561 เป็นวันครบรอบ 50 ปี เหตุสังหารหมู่พลเรือนชาวเวียดนามที่ปราศจากอาวุธที่หมู่บ้านหมีลาย จังหวัดกว๋างหงาย โดยฝีมือทหารสหรัฐฯ กองร้อยลาดตระเวน “ชาลี” เมื่อปี 2511 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 347 – 504 คน ส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิง สตรี และคนชรา บางคนต้องพิการตลอดชีวิต

นาย Dang Ngoc Dung เจ้าหน้าที่จังหวัดกล่าวในพิธีว่า การสังหารหมู่ที่หมีลายเป็นการก่ออาชญากรรมโดยกองกำลังที่เป็นศัตรูและใช้ความรุนแรง โดยเขาไม่ได้เอ่ยชื่อถึงประเทศ “สหรัฐอเมริกา” แต่ว่าตอนนี้เวียดนามต้องการละทิ้งความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต และเป็นมิตรที่ดีกับนานาประเทศ เพื่อสร้างอนาคต สันติภาพ และความสุขที่ดีขึ้นได้

นาย Do Ba ในวัย 9 ขวบเมื่อครั้งเหตุสังหารหมู่เมื่อ 50 ปีก่อน เล่าว่า ทหารอเมริกันบุกเข้ามาในบ้าน ก่อนถูกจับ รวมถึงแม่ของเขา และญาติพี่น้อง พาไปที่คลองระบายน้ำที่มีศพถูกฆ่ากว่า 170 ศพ

ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บและถูกฝังทั้งเป็น เนื่องจากแกล้งตาย เพราะเกรงว่าทหารอเมริกันจะมาฆ่าซ้ำ ท้ายที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐฯ อีกหน่วยที่เข้ามาหยุดการสังหารหมู่

นาย Ba บอกว่า เมื่อ 20 ปีก่อนยังมีความรู้สึกเกลียดแค้นทหารอเมริกันที่ฆ่าแม่และญาติพี่น้อง แต่ว่าตอนนี้เวลาก็ผ่านมา 50 ปีแล้ว เวียดนามกับสหรัฐฯ ก็มีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผู้คนลืมความเจ็บปวดและความทรมาร เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น

หนึ่งในอดีตทีมแพทย์กองทัพสหรัฐฯ ในเวียดนาม ระหว่าง กันยายน 1970 – 1971 และได้เดินทางมายังเวียดนาม ให้ความเห็นว่าทหารผ่านศึกหลายนายที่ไม่ได้เดินทางมานั้น ก็เพราะพวกเขารู้สึกละอายใจที่จะเผชิญหน้ากับชาวเวียดนามสำหรับการกระทำในอดีต ที่ยังคงเป็นตราบาปครั้งใหญ่ในชีวิต

ในงานพิธีรำลึก หญิงสาวหลายสิบคนสวมชุด “อ๊าวส่าย” ชุดประจำชาติของเวียดนามแบบดั้งเดิมและชุดนกพิราบ มาเต้นรำ มีผู้เข้าร่วม ทั้งผู้นำรัฐบาล ชาวบ้าน และกลุ่มทหารผ่านศึก อเมริกัน เพื่อรำลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและสนับสนุนสันติภาพให้คงอยู่ต่อไป

ที่มา TIME, Reuters