SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอนุญาตให้ประกันตัวรุ่นพี่ซ้อมน้องม้ามแตก 1 คน ไม่มีญาติยื่นประตัว 2 คน ต้องนอนเรือนจำ เปิดปากยอมรับสารภาพ ทำไปเพราะต้องการสั่งสอนเรื่องการปกครองน้องปี 1 ตามระบบโซตัส ไม่ใช่รับน้องตามประเพณี ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนสาหัส

ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายเทวฤทธิ์ บัวศิริ หนึ่งในรุ่นพี่ที่ทำร้าย นายปวริส รังสิต จนได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารับการผ่าตัดม้าม หลังญาติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลตีราคาประกันตัวเป็นเงินสด 150,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้เข้ารับคำปรึกษาศูนย์ทางจิตสังคมของศาล ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือนายอนันต์ จันอากาศ และนายสามารถ สุคนธา ไม่ได้ยื่นประกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงควบคุมตัวทั้งสองคนไปคุมขัง ที่เรือนจำกรุงเทพมหานคร

เมื่อกลางดึกวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา รุ่นพี่ 3 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้เข้ามอบตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ในคดีก่อเหตุซ้อมนายปวริศ หรือ เปา รังสิต นักศึกษารุ่นน้องในคณะเดียวกันจนม้ามแตก ต้องตัดม้ามทิ้งและรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ค. 61) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ศาสตรา อ่อนรัศมี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ได้เปิดแถลงรายละเอียดในคดีนี้ว่า ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเช้านี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหา ทั้ง 3 คนไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งจะอยู่ในดุลพินิจของศาลว่า จะให้ประกันตัวหรือไม่

โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายน้อง เพราะต้องการสั่งสอนในเรื่องที่ปกครองน้องปี 1 ไม่ดี ตามระบบโซตัส ไม่ใช่เป็นการรับน้องตามประเพณี และได้ก่อเหตุนอกรั้วมหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ก่อนก่อเหตุไม่ได้ดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา และไม่มียาเสพติด โดยได้ก่อเหตุเพียง 3 คนเท่านั้น ทั้งนี้ ตำรวจจะทำการขยายผลต่อไปว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้เคยก่อเหตุอื่นๆ มาก่อนหรือไม่หลังจากนี้ต้องรอผู้เสียหายมีอาการดีขึ้น ทางตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป

“ฝากถึงนักศึกษา หากจะมีการรับน้อง ไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวหรือทำร้ายร่างกายกัน เพราะสุขภาพร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์ DEK-D อธิบายว่า “โซตัส” เป็นรูปแบบการรับน้องที่เข้มข้น เด่นชัดคือการว๊าก การลงโทษผู้กระทำผิดที่ค่อนข้างจะรุนแรงต่อสภาพร่างกายและจิตใจ รุ่นพี่ผู้ผูกขาดอำนาจในการสั่งโทษ มีการถือระบบอาวุโสเป็นหลัก

(แฟ้มภาพ)

ส่วนอาการของนายปวริศ ล่าสุด ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไม่ได้มีคำสั่งงดเยี่ยม และออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว

ทางด้าน นายสุกิจ นิตินัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชมงคลกรุงเทพ ยอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักศึกษากลุ่มนี้ 2 จาก 3 คน เคยทำร่างกายนักศึกษาปี 1 แต่ไม่ถึงขั้นหูฉีก โดยทางมหาวิทยาลับกำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทั้งสองเหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกัน

น.ส.ประสบสุข เชียงเชาว์ไว แม่ของนายปวริศได้เข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่า ลูกชายถูกรุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 คณะเดียวกันสั่งทำโทษในลักษณะการธำรงวินัยแบบทหาร และทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยจนม้ามแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่บ่ายวันที่ 19 ก.ค.

คดีทำร้ายร่างกาย อัตราโทษ

มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 296 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ถ้าความผิด นั้น มีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี

สำหรับอันตรายสาหัสนั้น คือ

  1. ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
  2. เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
  3. เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
  4. หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
  5. แท้งลูก
  6. จิตพิการอย่างติดตัว
  7. ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
  8. ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน

 

ขอบคุณ ข้อมูลอัตราโทษคดีทำร้ายร่างกายจาก คลินิกทนายความ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่แจ้งความเอาผิดรุ่นพี่ปี 3 ซ้อมลูกจนม้ามแตก ต้องตัดทิ้ง อาการสาหัส

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า