“ลูกบุญทรง” หักเพื่อไทยซบพปชร. มองโหดร้าย “พ่อ” ถูกขยี้ทั้งที่ป่วย

“ลูกชายบุญทรง เตริยาภิรมย์” เสียงสั่นเครือตอบคำถามเหตุผลที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะถูกทนายความของอดีตนายกฯ โจมตี ทำให้กระทบต่อการรักษาอาการป่วยของ “พ่อ” จำเลยคดีจำนำข้าวที่อยู่ในเรือนจำ พร้อมเผยดีลผ่าน “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำกลุ่มสามมิตร

นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 42 ปี ในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อ 25 ส.ค. 2560 ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลของการลาออกจากพรรคเพื่อไทย เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า เพราะพ่อของตนถูกทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรีโจมตีให้เสียหาย ทั้งที่ตั้งแต่พ่อของตนติดคุกไม่เคยมีข่าวเลย แต่เมื่อพ่อของตนต้องการรักษาตัว กลับมีข่าวนำไปเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ จนกระทบต่อการรักษาอาการป่วย

“พอมาถึงเวลาที่ท่านเจ็บป่วยและได้รับการรักษาก็ดันไปเอาข่าวท่านไปเชื่อมโยงกับคดีต่างๆนานา ซึ่งส่งผลกระทบต่อท่านที่ต้องรับการรักษาตัว ถึงขั้นมีการพูดว่ามีการดีลวงในหรือเปล่า ทำให้คนอื่นที่ได้รับข่าวไม่อยากมาช่วย และเป็นการมองว่าป่วยจริงหรือไม่ เพราะเอาไปผูกกับเรื่องการเมืองไปหมด” ลูกชายนายบุญทรง กล่าว

นายเดชณัฐวิทย์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยเอง เกรงว่า การเดินหน้าในทางการเมืองจะมีปัญหา ตนนั่งคิดอยู่นานและตัดสินใจว่า ถอยออกมาก้าวหนึ่งดีกว่า ตอนที่ตนตัดสินใจลาออกก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเดินไปข้างหน้าไปทางไหน หรือจะย้ายไปพรรคไหนต่อ แต่ลาออกเพื่อความสบายใจของตัวเอง ของทางพรรค และของคุณพ่อ ทางพรรคเพื่อไทยจะได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

( บุญทรง เตริยาภิรมย์ / แฟ้มภาพ)

“การที่คุณพ่อเป็นอยู่ทุกวันนี้ คงไม่ต้องตอบก็คงทราบว่าเป็นเพราะอะไร พอวันนี้เราต้องการความช่วยเหลือ ดันมาขี่ซ้ำ ผมก็ถามพ่อว่าเราจะเอาอย่างไรกันดี ถ้าอยู่มันโหดร้าย ให้ผมพักการเมืองไหม พ่อให้ที่เหลือจากนี้เป็นการตัดสินใจของผมล้วนๆ ท่านบอกว่าชีวิตการเมืองของท่านจบไปแล้ว ต่อไปให้เป็นเรื่องของลูกตัดสินใจเอง” นายเดชณัฐวิทย์ กล่าว

นายเดชณัฐวิทย์ ยอมรับว่า ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับนายบุญทรง และเป็นผู้ให้คำแนะนำให้ตนไปพบกับ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ในฐานะผู้ใหญ่ที่พ่อของตนนับถือ โดยหลังจากพูดคุยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองเห็นว่า แนวทางการเมืองไปด้วยกันได้ ตนจึงตัดสินใจเข้ามาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพ่อของตนทราบและเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ และพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตเดิมของพ่อตนเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมว.ยุติธรรม เผย บุญทรง ป่วยหนักเตรียมผ่าตัดใหญ่ 27 พ.ย.นี้

ราชทัณฑ์ เตรียมส่ง “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ผ่าตัด รพ.ตำรวจ