Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – เด็กนักเรียนชายชั้น ม.4 วัย 17 ปี ชีวิตเหมือนตกนรกนานกว่า 4 ปี หลังถูกหนุ่มใหญ่เสนอตัวรับอุปการะส่งเสียเรียนหนังสือ แต่แลกกับการล่วงละเมิดทางเพศ สุดท้ายทนไม่ไหว หนีออกมาอยู่กับร้านโจ๊กชื่อดัง เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่หวั่นความปลอดภัยจึงมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายสรศักดิ์ มุทาวัน ทนายความอิสระ พร้อมด้วย นายเอ (นามสมมติ)  อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก เดินทางนำเอกสารและหลักฐานมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลก เพื่อให้ช่วยเหลือกรณีที่ถูกนายแม็ค อายุประมาณ 50 ปี ข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก ตั้งแต่อายุ 13 ปี เมื่อประมาณปี 2556 ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

โดยชายคนดังกล่าวได้ชักชวนให้นายเอไปอยู่ด้วยกันที่บ้านพัก ส่งเสียเลี้ยงดูให้ร่ำเรียนหนังสือเป็นเวลาถึง 4 ปี แต่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ มักลวนลามและชวนร่วมเพศทางทวารหนักอยู่บ่อยครั้ง จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก ร่วมทำการสอบด้วย เนื่องจากหวั่นเกรงถึงความไม่ปลอดภัยของเด็ก เพราะมีการพูดจาข่มขู่เอาไว้

นายสรศักดิ์ มุทาวัน ทนายความอิสระ

ด้าน นายสรศักดิ์ มุทาวัน ทนายความอิสระ เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นทนายความอิสระและขายโจ๊กข้าวข้นที่ถนนพระองค์ดำ อ.เมืองพิษณุโลก ส่วนนายเอนั้นมาสมัครงานเป็นลูกจ้างของร้านขายข้าวเหนียวข้างร้านขายโจ๊กของตนเอง และเผลอได้ยินเพื่อนของนายเอพูดหยอกเย้าแซวเล่นว่า “มึงเจ็บก้นแค่นี้มึงไม่ทนเหรอวะ” ตนจึงเรียกนายเอมาเค้นสอบถามหาความจริง

จนทราบว่า ก่อนหน้าที่นายเอจะมาทำงานอยู่ที่ร้านข้าวเหนียว เคยอาศัยอยู่กับนายแม็ค และยังถูกล่วงละเมิดทางเพศอยู่เป็นประจำ ซึ่งนายแม็คจะส่งเสียให้เรียนหนังสือ แต่ต้องแลกด้วยการถูกตุ๋ย

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการล่อลวงวัยรุ่นที่มักจะชอบไปเล่นเกมในร้านอินเทอร์เน็ต หรือเด็กติดเกมที่หน้าตาดี แต่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ก็จะพูดจาหว่านล้อมชักชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน มีคอมพิวเตอร์ให้เล่นเกม หรือให้เงินไปเล่นเกมตามความต้องการ ซึ่งเด็กหลงเชื่อก็จะไปอยู่ด้วย

จากนั้นจะพูดจาหว่านล้อมให้เด็กร่วมเพศทางทวารหนัก ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายสิทธิเสรีภาพของเด็ก ตนจึงต้องการช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ จากนั้นจึงได้นำนายเอไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 60 ปีที่ผ่านมา โดยตำรวจได้เรียกตัวนายแม็คมาสอบสวนแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่กับยายที่ไม่ใช่ยายแท้ๆ ส่วนพ่อเสียชีวิต และแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ขณะนั้นตนอายุ 13 ปี ติดเกมในอินเทอร์เน็ตอย่างงอมแงม และมักจะไปนั่งเล่นเกมที่ร้านทุกวัน

ต่อมามีนายแม็คแวะเวียนเข้ามาหาที่ร้านเกม ชักชวนพูดคุยให้ไปอยู่ด้วยกัน เพราะจะส่งเสียให้เรียนหนังสือและให้เงินใช้จ่าย ตนจึงยินยอมไปอยู่ด้วยที่บ้าน แต่สุดท้ายกลับถูกนายแม็คบังคับข่มขืนทางทวารหนัก เดือนละประมาณ 3 – 5 ครั้ง

นอกจากนี้ นายแม็คยังเคยชวนเด็กวัยรุ่นที่อยู่ต่างอำเภอจำนวน 3 คน มานอนด้วยที่บ้าน และให้แก้ผ้าทุกคน จากนั้นก็จะใช้มือลูบคลำตามร่างกาย ส่วนครั้งสุดท้ายที่ทนไม่ไหวคือ นายแม็คได้ชวนให้ตัวเองเข้าห้องไปสวดมนต์และขอมีอะไรด้วยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ตนไม่ยิมยอม จึงมีปากเสียงทะเลาะกันจนถูกขับไล่ออกจากบ้าน ก่อนจะไปหางานทำตามร้านอาหารในตัวเมืองพิษณุโลก กระทั่งเรื่องแดงเข้าหูนายสรศักดิ์ มุทาวัน ทนายความอิสระ พาเข้าช่วยเหลือตามหน่วยงานต่างๆ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ร.ต.อ.อำนาจ อ่อนปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีความ ตำรวจได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเรียกตัวนายแม็คมาสอบสวนแล้ว พร้อมแจ้งความดำเนินคดีตามฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ส่วนตัวเด็กนั้นได้ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพระพุทธชินราช อยู่ระหว่างรอผลอย่างชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับการเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมก็สามารถกระทำได้ เนื่องจากอาจเกรงกลัวถึงความไม่ปลอดภัยของเด็ก และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เข้าไปดูแลเรื่องฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก หากพบว่ามีพยานหรือหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม ก็จะเร่งรวบรวมหลักฐานส่งสำนวนคดีให้อัยการ เพื่อฟ้องศาลต่อสู้คดีกันต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า