ล่าจับ ! แก๊งตัดไม้ป่าทับลาน หลังกล้องส่งสัญญาณฟ้อง

ประเด็นคือ – ทหาร ตร. และจนท.อุทยาน สนธิกำลัง จับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน หลังกล้องระบบ NCAPS ส่งสัญญาณกลางป่า ยึดของกลางจำนวนมาก

วันที่ 8 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ประสานทหารกองร้อยรักษาความสงบ ประจำ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ร่วมกันนำกำลังเข้าปิดล้อมป่าวังหิน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน หลังได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ NCAPS ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกล้อง CCTV ที่เจ้าหน้าที่นำไปติดตั้งไว้ในป่าซึ่งเป็นพื้นที่ยากต่อการมองเห็นว่ามีการลักลอบขนย้ายไม้พะยูง โดยใช้รถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บจ 8870 อำนาจเจริญ

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบรถกระบะบรรทุกไม้พะยูงขับหลบหนี มุ่งหน้ากบินทร์บุรี-สระแก้ว-อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามไปจนถึงบ้านทับประดู่ หมู่ 10 ซอย 6 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระเเก้ว ก่อนคนร้ายทิ้งรถวิ่งเข้าป่าอ้อยแต่เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายสมรัก สำราญ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางไม้พะยูง 11 แผ่น/เหลี่ยม

สอบสวนให้การว่า มีนายนนท์ หรือนายสมปอง และภรรยา เป็นหัวหน้าแก๊งที่ประสานงานติดต่อกลุ่มนายทุนชาวกัมพูชา โดยจะเข้ามาตัดไม้แล้วนำไปส่งให้นายทุน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานำตัวส่ง สภ.วังขอนเเดง จ.ปราจีนบุรี สอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน ที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ตำรวจ ทหาร ร่วมป่าไม้ ฝ่ายอนุรักษ์ฯ จับกุมผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงขณะออกลาดตระเวน พบผู้ต้องหาวัยรุ่นชาย 3 ราย พร้อมของกลาง ทราบชื่อคือ นายเทพพิทักษ์ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นายเอกราช สู่สร้อย อายุ 19 ปี และ นายวงศธร มะลอย อายุ 19 ปี พร้อมของกลางไม้พะยูง จำนวน 2 ท่อน เครื่องเลื่อยยนต์ จำนวน 2 เครื่อง อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ขวานด้ามเหล็ก จำนวน 2 ด้าม มีดอีโต้ จำนวน 1 เล่ม ยาบ้า จำนวน 1 เม็ด ยาไอซ์ ประมาณ 0.3 กรัม

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างมาทำการขนย้ายไม้ โดยมี นายเบียร์ หรือ นายวรวิทย์ เป็นผู้ว่าจ้างขนไม้ จำนวนท่อนละ 1,000 บาท ส่วนยาบ้ากับยาไอซ์นั้น นายเบียร์ ก็เป็นผู้นำมาให้อีกด้วย จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

โดยกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ระบบ NCAPS หรือ Network Centric Anti Poaching System จะทำงานโดยใช้เลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ไม่มีแสงและเสียง แล้วส่งภาพกลับมายังอีเมล เป็นระบบ Network คล้ายกับกล้อง CCTV ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นผู้บุกรุกได้ทันที และสามารถประเมินสถานการณ์การคุกคามได้อย่างแม่นยำ