SHARE

คัดลอกแล้ว

https://youtu.be/MfS2X3Zksvk

เกิดเหตุระทึกกลางถนนเทพรัตน รถตู้โดยสาร กรุงเทพฯ-พัทยา ซิ่งหนีการตรวจค้นลากร่างจราจรหนีการจับกุม สุดท้ายไปไม่รอดถูกยิงขาสยบความคลั่ง ตรวจสอบพบเพิ่งเสพยาบ้าและมีหมายจับติดตัว

นี่เป็นคลิปวีดีโอที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า บังฮาด  แฝดนรก  ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (18 พ.ค.61) ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์คลิปดังกล่าวจำนวนมาก โดยภายในคลิปเป็นภาพรถตู้โดยสารสาธารณะคันหนึ่ง พยายามหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่ง ที่พยายามหยุดรถและเรียกคนขับให้ลงมาจากรถ บนถนนเทพรัตนขาเข้าหลักกิโลเมตรที่ 6 เขตบางนา กทม.

แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าประชิดรถคันดังกล่าว กลับพบว่า คนขับได้เร่งเครื่องพุ่งใส่เจ้าหน้าที่จนต้องกระโดดหลบ ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่ยางรถเพื่อสกัดการหลบหนีแต่คนขับรายนี้กลับไม่ยอมหยุดและเร่งเครื่องหลบหนีไปได้กว่า 2 ก.ม. โดยเฉี่ยวชนรถประชาชนที่จอดติดอยู่บนถนนจำนวนหลายคัน สุดท้ายไปไม่รอดเพราะยางหน้าด้านขวาแตก คนขับจึงทิ้งรถและหลบหนี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรายนี้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดที่ขาของคนขับ พร้อมทั้งเข้าจับกุมโดยมีเจ้าหน้าที่อาสาและประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยจับกุมตัวเอาไว้ได้ก่อนจะพาตัวส่งโรงพยาบาล

ต่อมาทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฎในคลิปดังกล่าวคือ ส.ต.ท.กรวิทย์ ทานุมา  ผบ.หมู่.จราจร สภ.บางแก้ว  โดย ส.ต.ท.กรวิทย์  เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (18 พ.ค.61) ขณะที่ตนเองและส.ต.ท. วานิช  สิทธิวงศ์ ผบ.หมู่ จราจร สภ.บางแก้ว กำลังปฎิบัติหน้าที่งานจราจรบริเวณหน้าห้างโฮมโปรบางนา ถนนเทพรัตน กม.12 ขาเข้า ระหว่างนั้นพบเห็นรถตู้ สาธารณะ โตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน 10-6068 ชลบุรี สาย พัทยา-กรุงเทพฯ ได้จอดส่งผู้โดยสารซ้อนคันในลักษณะกีดขวางการจราจร ส.ต.ท. วานิช จึงเข้าไปเรียกให้หยุดข้างทางเพื่อจะออกใบสั่งในระหว่างที่ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถ

โดย ส.ต.ท.วานิช สังเกตเห็นว่าคนขับ คือนายณรงค์กิติ พั้วงาม อายุ 31 ปี มีท่าทางพิรุธจึงนำชื่อเข้าตรวจสอบระบบตรวจสอบประวัติบุคคลตามหมายจับ ปรากฎข้อมูลว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาติดตัวในข้อหาขับเสพและหลบหนีการคุมประพฤติของเจ้าหน้าที่ จึงเชิญตัวคนขับลงจากรถเพื่อจะเตรียมจับกุม แต่ปรากฎว่าคนขับรายนี้ ได้พยายามมจะขับรถออกไป ส.ต.ท.วานิช จึงไปคว้ากุญแจรถแต่คนขับได้ออกรถ โดยลากตัวของ ส.ต.ท.วานิช ติดคารถไประยะทางเกือบ 50 เมตร จนกระทั่ง ส.ต.ท.วานิช ตัดสินใจปล่อยมือเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนจะวิทยุขอกำลังเสริม ซึ่งตนเองอยู่ใกล้สุดและพบเห็นเพื่อนตำรวจด้วยการถูกลากไปกับรถตู้ จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม

ระหว่างทางได้แสดงตัวให้จอด แต่กลับไม่จอดและยังได้เฉี่ยวชนรถคนหน้าอีกหลายคันจึงไล่ล่าจนมาถึง กม.6 ซึ่งเป็นจังหวะที่รถชะลอตัว ตนเองได้ชักอาวุธปืนประจำกายขึ้นมาขู่ให้ยอมจับกุม แต่กลับพบว่ายังเร่งเครื่องนี้ จนไปจอดข้างทางและทิ้งรถวิ่งนี้ข้ามไปยังทางคู่ขนาน ก่อนจะไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างและล็อกคอคนขับเพื่อให้พาหลบหนี ตนเองจึงตะโกนให้ประชาชนช่วยกันจับ แต่คนขับรายนี้ไม่ยอมและพยายามวิ่งกลับมาที่รถอีกครั้ง ก่อนจะประจันหน้ากับตนเองและวิ่งหลบหนีกลางถนน จึงเห็นว่าหากปล่อยให้วิ่งหนีต่อไปอาจจะเกิดอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรหรือเดินอยู่ข้างทาง จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกประจำกายยิงใส่ขาท่อนล่างเพื่อหวังให้คนขับรายนี้สยบความบ้าคลั่ง และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนในละแวกที่เกิดเหตุ  ซึ่งยืนยันว่าได้ทำตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบว่าคนขับมีพฤติกรรมที่อาจเกิดอันตรายต่อบุคคลอื่นได้หากปล่อยตัวไป

ขณะที่ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว  ระบุว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เข้าไปดูแลเรื่องการรักษาอาการของคนขับรายนี้แล้ว พร้อมทั้งเชิญตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ในเหตุการณ์และปรากฎในคลิปมาให้ข้อมูลที่เกิดขึ้น แล้วพร้อมทั้งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนผู้บาดเจ็บจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่ และผลการตรวจสารเสพติดในกระแสเลือดพบว่ามีการเสพสารเสพติดจริง

ด้านคนขับรถรายนี้ อ้างว่าไม่อยากติดคุก เพราะรู้ว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาไม่กี่วันนี้ ตนเองมีลูกมีเมียจึงไม่อยากติดคุกและตัดสินใจหลบหนีดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้เข้าสอบปากคำอย่างละเอียดทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ส่วนรถตู้คันก่อนเหตุได้สั่งอายัดไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่ถูกรถตู้คันนี้เฉี่ยวชน และยังไม่แจ้งความก็สามารถเดินทางมาแจ้งได้ที่ สภ.บางแก้ว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า