Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลสมุทรปราการ พิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์ หญิงอายุ 68 ปี และ เด็กหญิงวัย 12 ปี เสียชีวิต ในจ้งหวัดสมุทรปราการ เมื่อกลางเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา แม้สารภาพก็ไม่เป็นประโยชน์ ชี้โหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ บัลลังก์ 8 ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายพูล้า อายุ 22 ปี (สัญชาติลาว) เป็นจำเลยว่า กระทำผิดกฎหมายฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด ฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ฐานฆ่าชิงทรัพย์นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68 ปี ฆ่าเด็กหญิงอิสห์ยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี ฐานพยายามฆ่าเด็กหญิงอาภารัตน์ สำรวย อายุ 9 ปี โดยทารุณโหดร้ายเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานชิงทรัพย์ เพื่อปกปิดความผิด และฐานฆ่าแมวอันเป็นทารุณกรรมโดยไม่มีเหตุสมควร

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยหยิบอาวุธมีดจากในครัว แล้วงัดช่องลมห้องน้ำปีนเข้าไปในบ้านของนางมะลิ เพื่อลักทรัพย์ พบนางมะลิจึงบีบคอ ทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดปาดลำคอนางมะลิแล้วหยิบเอาทรัพย์ไป

เมื่อเด็กหญิงอิสห์ยาและเด็กหญิงอาภารัตน์ตื่นขึ้นร้องโวยวาย จำเลยจึงใช้อาวุธมีดปาดลำคอเด็กหญิงอิสห์ยา และเด็กหญิงอาภารัตน์แล้วหลบหนีไปที่ จ.มุกดาหาร เพื่อจะกลับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

การที่จำเลย ใช้อาวุธมีดซึ่งมีความแหลมคมและมีขนาดความยาวรวมด้าม 40 ซม. ปาดลำคอนางมะลิ กับใช้อาวุธมีดซึ่งมีความแหลมคมและขนาดความยาวรวมด้าม 39 ซม. ปาดลำคอเด็กหญิงอิสห์ยาจนถึงแก่ความตาย และปาดคอเด็กหญิงอาภารัตน์ จนเกิดบาดแผลฉีกขาดที่ลำคอด้านหน้า ขนาดใหญ่ และลึกถึงขนาดทำให้หลอดลมและหลอดอาหารฉีกขาด เสียเลือดปริมาณมาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย

ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียว แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เพราะจำเลยกระทำโดยอุกอาจต่อหญิงชราและเด็กหญิงอย่างโหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์ นับเป็นภัยต่อสุจริตชน จึงไม่มีเหตุอันควรปราณีที่จะลดโทษให้

กับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 และที่ 2 เป็นเงินคนละ 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5  ต่อปี นับแต่วันก่อเหตุเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็น เงิน 1,800,000 บาทแก่โจทก์ร่วมที่ 3 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันก่อเหตุเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า