SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอนุมัติหมายจับไอ้หมอกแล้ว หลังตกเป็นผู้ต้องหาเหตุข่มขืนน้องสาวแฟนตัวเอง ด้านชุดสืบ สภ.สะเดา เร่งจัดชุดไล่ล่าเบื้องต้นยังไม่มีวี่แวว ด้านผู้เป็นแม่เผยเครียดมากลูกชายไม่ติดต่อมา อยากบอกว่าให้ออกมาหากทำจริงก็ต้องยอมรับผิด

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเหตุข่มขืนเด็กสาวออทิสติก พนักงานสอบสวน สภ.สะเดาได้ยื่นคำร้องต่อศาล จังหวัดนาทวี เพื่อขออนุมัติหมายจับนายสันห์พิชญ์ หรือ หมอก โกบใบ อายุ 18 ปี ตามหมายจับที่ 374/2561 ทลงวันที่ 27 ส.ค.2561  ในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาตน โดยเด็กนั้นไม่ยินยอมและร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น และในส่วนของ น.ส.ขวัญ อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนก็ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนาทวี เพื่อขออนุมัติหมายจับไว้แล้วเนื่องจากมีอายุไม่ถึง 18 ปี

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20  ส.ค.2561 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่บ้านเลขที่ 2 ม. 3 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีนายสันห์พิชณ์ หรือ หมอก โกบใบ อายุ 18 ปี ได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นออทิสติกด้วย และมี น.ส.ขวัญ อายุ 15 ปี พี่สาวของผู้เสียหายรู้เห็นเป็นใจช่วย นายสันห์พิชญ์ฯเป็นแฟนตนเอง ในการข่มขืนน้องสาวตนเอง หลังจากเกิดเหตุ นายสันห์พิชญ์ฯ และ น.ส.ขวัญ ได้ลักเอารถจักรยายนต์ของบิดาผู้เสียหายแล้วได้พากันหลบหนี

ด้านชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.ประเสริฐ บุญศาสตร์ สวป.สภ.สะเดา พร้อมกำลังได้ไปพบกับ น.ส.จินดา มากผล อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายสันห์พิชญ์ อาศัยอยู่ที่บ้านพักในสวนยาง ม. 3 บ.หน่ำฮั้ว ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งบอกว่าหลังจากที่ลูกชายไปอยู่ที่บ้านแฟนสาวมาประมาณ 3 เดือน ก็ไม่ค่อยมาหาตัวเอง ติดต่อมาบ้างก็เพื่อขอเงินใช้ ล่าสุดโทรมาคุยก่อนก่อเหตุประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็เงียบหายไป ทั้งนี้ลูกชายเคยบอกไว้ว่าหากไม่มาที่บ้านเกินสองวันให้ไปตามที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ใกล้ตลาดสดในเทศบาลเมืองสะเดา

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุเมื่อติดต่อลูกไม่ได้ ก็เลยไปตามที่บ้านเพื่อนของลูกตามที่บอกไว้ แต่ก็ไม่เจอและไม่มีใครทราบว่าลูกไปอยู่ที่ไหน ทุกวันนี้เครียดไม่มีใครรู้หรอกว่าหัวอกคนเป็นแม่น่ะเป็นอย่างไร อยากให้ลูกชายออกมารับความจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับ หากไม่กล้าออกมาอยู่ที่ไหน ขอให้ติดต่อมาแม่จะไปรับด้วยตัวเอง

สำหรับเจ้าหน้าที่ สภ.สะเดา ได้จัดชุดไล่ล่าเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุทั้งหมดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแบ่งกำลังออกติดตามเป้าหมาย ที่เชื่อว่านายสันห์พิชญ์ฯและแฟนสาวจะหนีไปกบดาน

ทั้งนี้ หากใครมีข้อมูลหรือพบเบาะแสสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายในคดีดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สภ.สะเดา หมายเลขโทรศัพท์  0-7441-1027 และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หมายเลขโทรศัพท์ 1599

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 2 หมู่3ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา อีกครั้งเพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้านพักเพื่อประกอบสำนวนคดี  ในขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุดก็กระจายกันลงพื้นที่หาเบาะแสเร่งติดตามจับกุมและกดดันให้เข้ามอบตัว  แต่จนถึงขณะนี้ทั้งสองคนก็ยังกบดานเงียบและยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด

โดยมีตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามได้เข้ามาร่วมทำคดีนี้ด้วย โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแกะรอยความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนนอกเหนือจากสอบสวนพยานแวดล้อมในพื้นที่

สำหรับคดีนี้ ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมและชาวบ้านในพื้นที่อ.สะเดา เป็นอย่างมากทันทีที่เรื่องนี้ปรากฏออกไปมีคนเข้ามาประนามการกระทำของสองผัวคู่นี้กันจำนวนมาก เพราะไม่มีใครรับได้ที่พี่สาวแท้ๆยอมให้แฟนตัวเองข่มขืนน้องสาวที่ป่วยออทิสติกคาบ้าน และยังจับย่ามัดมือมัดเท้าขโมยแหวน โทรศัพท์มือถือและเงินสดหลบหนีไป

โดยเฉพาะในโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องนี้ส่งต่อกันไปพร้อมกับหมายเลขโทรศัพท์ของญาติ 095-2728685 และ 099-0265669 เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นหรือทราบเบาะแสของทั้งสองคนช่วยแจ้งให้ญาติและตำรวจได้ทราบเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

สำหรับประวัติของทั้งคู่เพิ่งคบกันได้เพียง3 เดือนเท่านั้น และฝ่ายหญิงได้พาเข้ามาอยู่ที่บ้าน  ซึ่งในวันเกิดเหตุนอกจากจะรู้เห็นเป็นใจให้แฟนหนุ่มข่มขืนน้องสาวแล้ว ยังเป็นคนจับย่าของตัวเองมัดมืดมัดเท้าและทำร้ายร่างกายด้วย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม>>>

สงขลา ตำรวจเร่งล่าพี่สาว-แฟนหนุ่มขืนใจน้องสาวออทิสติก วัย 12 สาหัส

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า