Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

คืบหน้าสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ที่เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาณน้ำล้นลงแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มขึ้น จนท.เฝ้าระวังระดับน้ำ และเร่งพร่องน้ำออกต่อเนื่อง ขณะที่ ปภ.เผยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 11 จังหวัด น้ำโขงล้นตลิ่งแล้ว 3 จังหวัด

วันที่ 9 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย สำหรับลุ่มน้ำเพชรบุรี ยังคงมีปริมาณน้ำหลากไหลอย่างต่อเนื่องลงเขื่อนแก่งกระจาน น้ำไหลล้นทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ส่วนแม่น้ำสายหลักในประเทศไทยมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีน้ำล้นตลิ่ง ส่วนแม่น้ำโขง ยังมีระดับน้ำล้นตลิ่งบริเวณ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร และ จ.อุบลราชธานี

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ มีจำนวน 4 แห่ง คือ เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ เมื่อเวลา 04.00 น. มีปริมาณน้ำ 733 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 103 % สถานภาพน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อน ยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ซึ่งปริมาณน้ำล้นทางระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมพื้นที่ริมสองฝั่งลำน้ำในบริเวณ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง และ อ.บ้านแหลม ก่อนจะไหลลงสู่ทะเล โดยมีการเร่งพร่องระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีและในระบบชลประทาน รวมถึงการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำโดยการลักน้ำ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงจำนวน 31 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำจำนวน 38 เครื่อง รวมทั้งเร่งตัดยอดน้ำและการระบายน้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) เขื่อนแก่งกระจาน ต่อเนื่อง ช่วยให้น้ำที่เมืองเพชรบุรีต่ำกว่าตลิ่ง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีความจุเก็บกักน้ำ 710 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นจนมีน้ำอยู่ที่ 734 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 103 ของความจุอ่าง จนเกิดน้ำล้นสปิลเวย์ 57 เซนติเมตร โดยภาพรวมปริมาณน้ำจากการตรวจวัดสถานีวัดน้ำท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงบ้านแหลม 5 สถานี มีปริมาณน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมด โดยเฉพาะสถานีเมืองเพชรบุรี ต่ำกว่าตลิ่ง 1.09 เมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำยังไม่ไหลเข้าตัวเมืองเพชรบุรี เนื่องจากได้ตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งซ้ายและขวาออกลงทะเลประมาณ 27.48 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เหลือน้ำไหลลงเขื่อนเพชรบุรีประมาณ 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ขณะที่ปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยผาก มีความจุอ่าง 27.50 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บกักอยู่ 14.11 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 51 ของความจุอ่าง มีความจุอ่าง 42.20 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บกักอยู่ 11.33 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 27 ของความจุอ่าง โดยยังระบายออกทั้ง 2 เขื่อน เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรี เพราะปริมาณน้ำทั้งหมดจะไหลลงมาหน้าเขื่อนเพชรบุรี ก่อนเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี ภาพรวมยังบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ได้อยู่

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำที่มาจากเขื่อนแก่งกระจาน และสถานการณ์น้ำในภาพรวมของ จ.เพชรบุรี ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) อ.ท่ายาง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจและแจ้งเตือนให้ประชาชนมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์และเตรียมแผนการอพยพ หากมีความจำเป็น พร้อมให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลและทุกหน่วยงานได้เตรียมแผนรับมือและแนวทางการดูแลเยียวยาประชาชน หากได้รับความเดือดร้อนไว้ทั้งหมดแล้ว และรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2561 เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มใน 29 จังหวัด โดยสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 18 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 11 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี บึงกาฬ สกลนคร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ยโสธร ระนอง พังงา และเพชรบุรี พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย

ขณะที่ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำเขื่อนเพชร คาดการณ์ว่า จะมีน้ำไหลรวมที่หน้าเขื่อนเพชรสูงสุดปริมาณ 230-250 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยจะทำการหน่วงน้ำหน้าเขื่อนและตัดระบบชลประทานฝั่งซ้าย-ฝั่งขวา รวม 55 ลบ.ม. ต่อวินาที และผันน้ำเข้าคลองระบายน้ำ D9 พร้อมทั้งระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเพชร จะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด โดยไม่มีผลกระทบ และเมื่อไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีจะทำให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชน สูงเฉลี่ยประมาณ 30-50 ซม. ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 10 วัน ทั้งนี้จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พร้อมกับติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง

ส่วนความคืบหน้าในการช่วยเหลือรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม กองทัพบก ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนและช่วยเหลือสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งสามารถที่จะรับมือได้

ด้าน นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วม แผนจัดบริการนอกสถานที่ แผนอพยพผู้ป่วย รวมทั้งสำรวจผู้ป่วยติดเตียง พร้อมให้แนะนำญาติให้ย้ายผู้ป่วยไปนอกพื้นที่ชั่วคราวในส่วนของผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับยาต่อเนื่อง ได้จ่ายยาสำรองเพิ่มอีก 1 เดือน เพื่อไม่ให้ขาดยา จากการประเมิน มีโรงพยาบาลเสี่ยงน้ำท่วม 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า ได้ย้ายเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ออกซิเจน เครื่องสำรองไฟ เตรียมเครื่องสูบน้ำ กระสอบทรายสำหรับกั้นห้องเอกซเรย์และเตรียมห้องไอซียูสำรองสำหรับย้ายผู้ป่วยไอซียูศัลยกรรม

ด้านกรมชลประทาน และหน่วยงานต่างๆ ได้จัดแผนนำเครื่องจักรกลหนัก เข้ามาติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงรับน้ำ โดยได้เดินเครื่องผลักดันน้ำมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านบริเวณริมแม่น้ำเพชรบุรี ได้มีการเตรียมความพร้อมวางกระสอบทราย และเตรียมยกสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลต่อสถานการณ์ โดยยังคงใช้ชีวิตและประกอบอาชีพตามปกติ

ขณะที่หน่วยงานราชการ ได้ประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งถึงสถานการณ์น้ำและระดับน้ำให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ก็จะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุน ในช่วงระหว่างวันที่ 10-12 ส.ค. นี้ไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำใน จ.เพชรบุรี ยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว โดยนายอุดมสุข นิ่มเซียน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรม สถานที่พักต่างๆ ใน อ.หัวหิน ยังไม่ได้รับผลกระทบ การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ อ.หัวหิน ยังคงเป็นไปตามปกติ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า