สสส.ร่วมกับ สคอ.แถลงข่าว ดื่มแล้วขับฯ ผู้โดยสารมีความผิดด้วย ฐานไม่ห้ามปราม

การแถลงข่าว “สงกรานต์ ดื่มไม่ขับ ไปกลับปลอดภัย 62” เพื่อสร้างความตระหนัก ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดื่มไม่ขับ ลดความเร็ว ลดความสูญเสีย อันมาจากอุบัติเหตุทางถนนที่ป้องกันได้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 เม.ย.62 ที่ห้องบอลรูม 2 ชั้น 4 โรงแรมริชมอนด์ ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) , นายนพดล สันติภาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด , นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลกอุบัติเหตุ (สคอ.) , พล.ต.ต.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ  ผบช.การศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ น.ส.รุจิเรข คุมโสระ ผู้ประสบเหตุ จ.ปทุมธานี ร่วมแถลงข่าว “สงกรานต์ดื่มไม่ขับ ไปกลับปลอดภัย 62” เพื่อสร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดื่มไม่ขับ ลดความเร็ว ลดความสูญเสีย อันมาจากอุบัติเหตุทางถนนที่ป้องกันได้

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถิติสงกรานต์ ปี 2561 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,724 ครั้ง บาดเจ็บ 3,897 คน เสียชีวิต 418 คน และแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนประมาณ 20,000 กว่าคนต่อปี คิดเป็นวันละกว่า 60 ศพ

จากการตรวจสอบสาเหตุหลักมาจากการดื่มแล้วขับ ขับเร็ว ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับลดลง ยิ่งดื่มมาก มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง ทาง สสส.จึงรณรงค์เพื่อผลัดดันการใช้กฏหมายต่อผู้ดื่มแล้วขับอย่างจริงจัง เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยในปีนี้ใช้หัวข้อ “สงกรานต์ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย”

น.ส.ธารินี ปานเขียว ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์และเกิดอุบัติเหตุมี 2 ส่วน คือประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.จะต้องมีการเยียวยาไปก่อน ถึงผู้ขับขี่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางประกันภัยก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของ พ.ร.บ. แต่มีวงเงินที่กฏหมายกำหนด กรณีที่บาดเจ็บคุ้มครองไม่เกิน 30,000 บาท ค่ารักษาที่จ่ายจริงและเสียชีวิตในกรณีค่าปลงศพ 35,000 บาท

และประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 1 , 2 , 3 ถ้าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ แต่จะเยียวยาไปก่อน แต่จะไปไล่เบี้ยคืนจากผู้ประกันภัย ความคุ้มครองของ พ.ร.บ.สามารถเข้าได้ทุกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตามวงเงินที่กำหนด

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า ทางภาคีเครือข่ายมีการจัดรณรงค์ทุกปี แต่สถิติการเกิดอุบัติเหตุไม่ลดลง ซึ่งทุกองค์กรมีความพยายามที่จะร่วมมือกันจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ และมีการร่วมมือกันจากหลายหน่วยงานมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง เพื่อให้ทุกคนกลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัย สำหรับผู้ที่ขับขี่รถที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีอัตราโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พักใบอนุญาต 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต

ส่วนเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพิกถอนใบอนุญาต และถ้ามีแอลกอฮอล์เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ศาลจะสั่งใช้กำไลคุมประพฤติทันที และมีคำสั่งห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาล

ในปีนี้มีการเพื่อโทษสำหรับผู้โดยสารที่นั่งไปด้วย ถ้าผู้โดยสารที่นั่งไปปล่อยให้ผู้ขับขี่ดื่มสุรา ผู้โดยสารจะมีความผิดด้วย และถ้าคนขับที่ไม่ดื่ม แต่มีผู้โดยสารดื่มสุราในรถระหว่างขับขี่ ก็มีความผิดด้วยตามกฎหมาย

พล.ต.ต.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.การศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ให้ประชาชนทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยทั้งไปและกลับ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยเฉพาะถนนสายกลาง

และสอง คือช่วงระหว่างกาคเดินทาง จะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ผู้ที่ดื่มสุราจนเกิดอุบัติเหตุและผู้ที่สนับสนุนให้ผู้ขับขี่ดื่มสุรา จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยไม่มีการยกเว้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุ และมีการรวบรวมหลักฐานตรวจพบว่าผู้ขับขี่ดื่มสุรา จะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด

น.ส.รุจิเรข คุมโสระ ผู้ประสบเหตุ จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ตนเกิดอุบัติเหตุเมื่อปีก่อนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากคนขับรถตู้ที่ตนนั่งไปขับเร็ว และยอมรับว่าดื่ม ทำให้รถพลิกคว่ำตนเองบาดเจ็บสาหัส ที่กระดูกสันหลัง กลายเป็นผู้พิการ ไม่มีความรู้สึกตั้งแต่เอวลงไป สูญเสียรายได้ เกิดผลกระทบต่อคนรอบข้างและครอบครัว  จึงฝากเตือนถึงคนที่กำลังวางแผนเดินทางโดยการขับรถ ขอให้มีสติอยู่เสมอ