SHARE

คัดลอกแล้ว

สองผัวเมียลูกติดทั้งคู่ เพิ่งอยู่กินกัน 5 เดือน มีปากเสียงทะเลาะหึงหวงประจำ ฝ่ายชายลงมือฆ่าฝ่ายหญิงก่อนส่งข้อความบอกพี่สะใภ้ ให้เอาโทรศัพท์ให้ลูกตน แล้วจุดเผาบ้านฆ่าตัวตายตาม พบศพนอนกอดฝ่ายหญิงบนเตียง สภาพถูกไฟไหม้เกรียมทั้งคู่

เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (30 ส.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.กระสัง นำโดย พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผกก.สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และแพทย์เวร โรงพยาบาลกระสัง หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานและชันสูตรพลิกศพ โดยเป็นเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 144 ม.17 บ้านหนองเต็งใหญ่ ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว แบ่งเป็น 2 ส่วน ห้องหนึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวย ซึ่งด้านหลังเป็นห้องนอน โดยมีห้องน้ำต่อยื่นออกมา อีกห้องหนึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหาร

โดยศูนย์วิทยุ สภ.กระสัง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านหลังดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. หลังเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบภายในบ้านพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย มีลักษณะไหม้เกรียม นอนกอดก่ายกันอยู่ภายในห้อง คาดว่าน่าจะเป็นศพของ นายสัญญา ขันธวงษ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 9 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ น.ส.นภัสญาณ์ โชคทรัพย์สุภา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 17 ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน พักอาศัยและเปิดร้านขายอาหารและร้านเสริมสวยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

ทั้งยังพบซากยางรถยนต์จากเพลิงไหม้ 2 เส้น วางอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้องนอน และอีกสองเส้นอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ คาดว่ายางรถยนต์ทั้งสี่เส้นเป็นต้นเพลิงที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ แล้วลุกลามไหม้ฝ้าเพดานในห้องนอน ส่วนที่เปิดเป็นร้านเสริมสวยกับส่วนที่เปิดเป็นร้านขายอาหารยังไม่เสียหาย เนื่องจากควบคุมเพลิงไว้ได้ก่อน และเจ้าหน้าที่ยังพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีทอง ตกอยู่ข้างบ้านบริเวณหน้าต่างข้างห้องนอน ตรวจสอบพบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของ นายสัญญา ขันธวงษ์ ผู้เสียชีวิต

จากการตรวจสอบโทรศัพท์ดังกล่าวพบว่า นายสัญญา ขันธวงษ์ ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สงคราม ลูกพระบาท” มีการส่งข้อความถึงผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ไม้ อิสระชน คนหลังเขา” โดยมีข้อความว่า “อ้ายฆ้าไอ้สุตายแล้วเด้อ เอาโทสัพไห้ลูกอ้ายแนเด้อ” ในเวลา 00.53 น. ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ไม้ อิสระชน คนหลังเขา” พยายามโทร.กลับทางแมสเซนเจอร์ แต่ไม่มีการรับสายแต่อย่างใด ตรวจสอบทราบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ไม้ อิสระชน คนหลังเขา” คือ น.ส.สมหมาย กาลนอก เป็นภรรยาพี่ชายคนโตของ น.ส.นภัสญาณ์ ที่เสียชีวิต สอบถามทางโทรศัพท์มือถือทราบว่า นายสัญญาและ น.ส.นภัสญาณ์ เป็นสามีภรรยากัน มักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง เนื่องจากเหตุหึงหวง

สอบถาม นายอาทิตย์ เชิดสุข พี่ชายคนรองของ น.ส.นภัสญาณ์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ด้านหลังบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ให้การว่า เวลาประมาณ 01.30 น. ตนเห็นควันไฟและเปลวไฟลุกไหม้ภายในห้องนอนบ้านน้องสาว  จึงได้ขี่รถ จยย.ไปแจ้งดับเพลิงเทศบาลตำบลหนองเต็ง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการดับเพลิงอยู่นั้น ตนได้พบโทรศัพท์มือถือของนายสัญญาตกอยู่ข้างบ้าน จึงได้มอบให้ตำรวจ ซึ่งในบ้านหลังดังกล่าวมีเพียง นายสัญญา และ น.ส.นภัสญาณ์ พักอาศัยอยู่ ทั้งคู่คบกันนานแล้ว แต่เพิ่งมาอยู่กินด้วยกัน 5 เดือน เป็นสามีภรรยากัน มักมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย เนื่องจากสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบหึงหวง โดยนายอาทิตย์ยืนยันว่า ศพทั้งสองคือนายสัญญา และ น.ส.นภัสญาณ์

นายอาทิตย์ เชิดสุข พี่ชายฝ่ายหญิง

ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผกก.สภ.กระสัง เปิดเผยว่า จากข้อมูลพยานหลักฐานเบื้องต้นทราบว่า นายสัญญา และ น.ส.นภัสญาณ์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบสามีภรรยาประมาณ 5 เดือนแล้ว โดยต่างฝ่ายต่างเคยมีครอบครัวมาก่อน ฝ่ายชายมีลูกติด 3 คน ฝ่ายหญิงลูกติด 1 คน ประกอบอาชีพเปิดร้านขายอาหารและร้านเสริมสวยในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า ทั้งสองมักทะเลาะกันบ่อยเรื่องความหึงหวง และจากข้อความทางเฟซบุ๊กที่นายสัญญาส่งถึง น.ส.สมหมาย แจ้งว่า ตนได้ฆ่า น.ส.นภัสญาณ์ แล้ว และการเปลี่ยนตำแหน่งของยางรถยนต์ที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง จากบริเวณหน้าห้องน้ำมาอยู่ภายในห้องนอน 2 เส้นนั้น จึงน่าเชื่อได้ว่า ศพทั้งสองคือ นายสัญญา และ น.ส.นภัสญาณ์ โดยนายสัญญาได้ฆ่า น.ส.นภัสญาณ์ ก่อนแล้วจึงทำการเผาบ้านเพื่อฆ่าตัวตายตาม

หลังเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานและชันสูตรพลิกศพแล้ว ได้ส่งศพตรวจพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า