สอบเครียด ! กรณีเด็กหญิง 8 ขวบ ถูกเพื่อนร่วมห้องชาย 3 คน เอาดินสอแหย่อวัยวะเพศ

พมจ.อุดรธานี รับเรื่องดำเนินการ กรณี ด.ญ. 8 ขวบ ถูก ด.ช.เพื่อนร่วมห้อง 3 คน เอาดินสอแหย่อวัยวะเพศ เตรียมส่งนักจิตวิทยาพบดูพฤติกรรมเด็กชาย เผยต้องดูแลทุกฝ่าย

กรณีที่มีข่าว นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 61 ปี ชาวบ้านโนนสูง ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ร้องเรียนขอความเป็นธรรม เรื่องของหลานสาวอายุ 8 ขวบ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัด ถูกเพื่อนชายร่วมห้อง 3 คน รุมทำอนาจารและทำร้ายร่างกาย ด้วยการนำแท่งดินสอแหย่ที่อวัยวะเพศจนได้รับบาดเจ็บ และยังมีทำอนาจารคล้ายท่าทางร่วมเพศ ภายในห้องน้ำของโรงเรียน บางครั้งก็กระทำกันภายในห้องเรียน ขณะที่ครูประจำชั้นไม่อยู่

โดยนางน้อย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับเด็กชายทั้ง 3 คน รวมทั้งครูประจำชั้น และ ผอ.โรงเรียน ที่ปล่อยปละละเลยให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่เหตุเกิดมานานถึง 4 เดือนแล้ว รวมทั้งเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรมอุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อขอสัมภาษณ์กับทาง นายสุวัฒน์ สุระอุดร ผอ.โรงเรียน แต่ทาง ผอ.ไม่อยู่ ทราบว่าเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางดำเนินการในเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยใช้ห้องประชุมของ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่เกิดกับเด็กที่อายุเพียง 8 ขวบ ที่มีครูประจำชั้นของเด็กนักเรียน รวมทั้งนางน้อยฯ ย่าของ ด.ญ. และตัวของ ด.ญ. ใช้เวลาร่วมประชุมกว่า 3 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี และพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กไปตรวจหาร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เสร็จแล้ว ย่าและญาติของ ด.ญ.ชั้น ป.1 มาร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม ให้ตำรวจเร่งรัดคดี จึงได้เรียก ผอ.โรงเรียน ครูประจำชั้น เด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวน ต่อหน้าสหวิชาชีพ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผอ.พมจ.อุดรธานี จึงได้รับเรื่องไป พร้อมกับให้นักสังคมสงเคราะห์ไปสอบสวนที่บ้านเด็กทั้งสอง และนัดมาไกล่เกลี่ยที่ สนง.พมจ.ในวันนี้

ผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์กับนางน้อย ย่าของ ด.ญ.เอ เพื่อขอทราบเรื่องที่มาร่วมประชุมกับร่วมกับทีมสหวิชาชีพ โดยนางน้อย บอกว่า เรื่องเป็นไปตามนั้น และจะขอย้ายโรงเรียนให้หลาน และขออนุญาตไปกินอาหารกลางวันก่อน และจะกลับมา โดยหลังจากนั้นนางน้อยฯ ก็หายไป และไม่สามารถติดต่อได้อีก เช่นเดียวกับ ผอ.โรงเรียน ที่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเช่นกัน

หลังจากนั้น นายพีรพล เปล่งเกียรติคุณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.อุดรธานี) เปิดเผยว่า พมจ.อุดรธานี เป็นคนกลางที่จะเรียกเด็กทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งทางโรงเรียน เข้ามาร่วมพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา เพราะว่าเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ยังอยู่ในวัยที่เล็กมาก อยากให้ผู้ใหญ่ทุกฝ่าย รวมทั้งทีมสหวิชาชีพเข้ามาร่วมแก้ไข คงยังไม่มีการฟันธงลงไปว่าใครเป็นอย่างไร

และอีกส่วนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเยี่ยมครอบครัวเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งได้เยียวยาให้กับฝ่ายเด็กหญิง ที่อ้างว่าโดนกระทำ และวันนี้ได้เรียกทีมสหวิชาชีพมาดำเนินการว่า ทิศทางที่จะดำเนินการต่อไปจะทำอย่างไร ซึ่งในกระบวนการก็มีแนวทางแก้ไขอยู่ และ จ.อุดรธานี จะมีบ้านพักเด็กและครอบครัว ที่มาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่ได้ลงพื้นที่และประสานกับทางโรงเรียน ตำรวจ และอีกหลายที่ ที่เราจะต้องเร่งสรุปเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการลงพื้นที่พบกับครอบครัวเด็กทั้ง 2 ฝ่าย การยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายพีรพล ตอบว่า ขณะยังอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายที่จะพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ซึ่งต่างคนต่างก็บอกว่าตัวเองไม่ผิด เราจึงต้องใช้วิธีการตามขั้นตอนที่กังดำเนินการ ส่วนการเยียวยาการดูแลเด็ก คงต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีวิธีการกระบวนการอยู่แล้ว โดยเรื่องดังกล่าวเราจะเร่งสรุปให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งทีมงานกำลังเร่งดำเนินการ อีกทั้งทางผู้ปกครองของเด็กหญิงมีความประสงค์ที่จะให้เด็กย้ายโรงเรียน เพราะกลัวเด็กจะถูกกระทำ หรือถูกกลั่นแกล้งอีก พมจ.อุดรธานี จะเป็นผู้ประสานให้ในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว

“สภาพจิตใจเด็กขณะนี้เท่าเห็น เด็กก็ยังร่าเริงตามประสาเด็ก ไม่ถึงกับว่าจะซึมเศร้าหรือมีาการเครียด ทั้งนี้เราได้คุยกับทางเด็กทั้ง 2 ฝ่ายว่า อยากให้เด็กทั้ง 2 ฝ่าย ไปพบกับจิตแพทย์ ที่เขามีความชำนาญในเรื่องแบบที่เกิดขึ้น ที่จะสามารถจับพฤติกรรมของเด็กได้ว่าเด็กเป็นอย่างไร หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น” พมจ.อุดรธานี กล่าว

นางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในส่วนของคดีความก็คงให้ทางตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ร่องรอยต่างๆ ที่เกิดกับ ด.ญ. ที่ได้ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ส่วนการดูแลเรื่องสุขภาพกายและจิตใจของเด็ก ที่ขณะนี้เด็กกหญิงได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว ทางผู้ปกครองของ ด.ญ. (ย่า) มีความประสงค์ที่จะเป็นผู้ดูแลเด็กเอง ทางบ้านพักเด็กฯ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่และนักจิตวิทยาไปดูแล สร้างความปลอดภัยกับเด็กทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประโยชน์สูงสุด

“ส่วนเด็กชายที่เป็นผู้กระทำ เราคงจะเข้าไปดูแลในเรื่องของพฤติกรรม การแสดงออกของเด็กที่อยู่ที่บ้าน ส่วนหนึ่งเราได้ทำความเข้าใจกับทางผู้ปกครองของเด็กชายไปแล้ว โดยให้ผู้ปกครองสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกต่างๆ ที่บ้าน รวมทั้งได้ประสานไปยังคุณครูในสถานศึกษาว่า ระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน เด็กมีพฤติกรรมการแสดงออกอย่างไร สรุปคือ เราส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับทางผู้ปกครองของเด็ก ที่อาจจะต้องพาเด็กไปอยู่ในการดูแล หากเด็กมีปัญหาในเรื่องของพฤติกรรมจริงๆ คงจะต้องดูในเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกับเด็กต่อไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นมานานกว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งทางครูที่โรงเรียนพยายามจะปิดเรื่องที่เกิดขึ้น จะดำเนินการอย่างไร นางเยาวพรรณฯ ตอบว่า จากการร่วมประชุมวันนี้ ทาง ผอ.ของโรงเรียน เพิ่งได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งทาง ผอ.โรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จากการประชุมทีมวันนี้ คือ ข้อมูลเบื้องต้นทางทีมสหวิชาชีพเพิ่งทราบ รวมทั้งทางเราที่ร่วมทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพ ทั้งจังหวัด ทาง พมจ. ทางบ้านพักเด็ก ทางสถานศึกษา และทางยุติธรรมจังหวัด ที่ทุกคนเมื่อทราบเรื่อง ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบเข้ามาดูแลในทันที เพื่อที่จะดูเรื่องความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ