ประเด็นคือ สาวอุบลฯ วัย 16 ปี ทุกข์ใจ พี่ชายถูกคนในเครื่องแบบยัดยาบ้าแถมเรียกค่าไถ่ขอมีเซ็กซ์กับแม่ ขู่หากแจ้งตำรวจจะกลับมาทำร้าย ด้านผู้เป็นแม่เผย ที่ยอมเล่าเหตุการณ์เพื่อต้องการให้สังคมรับรู้และระวังตัว ส่วนตัวไม่คิดเอาเรื่อง แต่ยังหวาดกลัว
วันที่ 5 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการประสานจากเพจมีด่านบอกด้วยอุบลราชธานี ให้นำเสนอข่าวเตือนภัยสังคมกรณีมีหญิงสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวและลูกสาวของผู้ตกเป็นเหยื่อ ชาวอำเภอเขมราฐ ถูกจับเรียกค่าไถ่ โดยแลกกับการให้คนเป็นแม่ไปร่วมหลับนอนกับคนร้าย
ต่อมาได้เข้าไปสอบถามกับนางหน่อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี นายพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.มิน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี 3 คนแม่ลูกเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่นายพงษ์ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปหาภรรยาที่ จ.อุดรธานี โดยใช้เส้นทางถนนยุทธศาสตร์เลียบแม่น้ำโขงอำเภอเขมราฐ – จ.มุกดาหาร
เมื่อได้ขี่รถมาถึงบริเวณลำห้วยชู บ้านสามแยกถ้ำเสือ ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ ก็พบชาย 3 คนใช้รถกระบะโตโยต้าสีดำ ไม่ทราบทะเบียน แต่งกายคล้ายตำรวจ 1 คน อีก 2 คน แต่งกายด้วยชุดลายพราง เรียกให้หยุดรถและขอตรวจค้นบริเวณกระเป๋าสะพายหลัง แล้วก็บอกว่าพบยาบ้าจำนวน 10 เม็ดซุกซ่อนอยู่ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ
นายพงษ์บอกกับชายกลุ่มดังกล่าวว่า ยาบ้าที่พบไม่ใช่ของตนเอง แต่ชายที่แต่งกายคล้ายตำรวจก็บอกให้นายพงษ์โทรศัพท์ไปหานางหน่อย มารดา บอกให้นางหน่อยรับเฟซบุ๊กเป็นเพื่อนกับชายคนดังกล่าว เพราะจะมีข้อเสนอในการปล่อยตัวนายพงษ์ให้เป็นอิสระ
หลังนางหน่อยรับเฟซบุ๊กชายคนดังกล่าว ก็ได้มีการแช็ทพูดคุย โดยชายคนนั้นแจ้งว่า เป็นตำรวจ สภ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร พร้อมข่มขู่จะดำเนินคดีกับนายพงษ์ ต้องติดคุก 5-6 ปี และต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายทางคดีอีก 3 แสนบาท พร้อมยอมรับว่ายาบ้าที่อ้างว่าพบจากกระเป๋าของนายพงษ์นั้น เป็นยาบ้าที่ลูกน้องยัดไว้เอง
ถ้าไม่ต้องการให้มีเรื่องมีราวและต้องการให้ปล่อยตัวลูกชาย นางหน่อยต้องมาร่วมหลับนอนกับชายคนนั้นเป็นการแลกเปลี่ยน ทำให้นางหน่อยสงสัยในพฤติกรรม จึงปรึกษากับครอบครัวและสอบถามไปยัง สภ.ดอนตาล ว่ามีการจับตัวนายพงษ์ไว้หรือไม่ ซึ่งทางสถานีแจ้งว่าไม่มีการจับกุมตัว นางหน่อยจึงเดินทางไปปรึกษากับตำรวจ ระหว่างนั้น คนร้ายก็ได้ทักเฟซบุ๊กเข้ามาสอบถามนางหน่อยอีกว่า ยินดีรับข้อเสนอหรือไม่
ตำรวจที่จึงแจ้งให้นางหน่อยตอบรับทำตามความต้องการ โดยจะไปเปิดห้องรออยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง และให้คนร้ายมาพบเพื่อร่วมหลับนอนกัน โดยมีการวางกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบไว้รอจับตัวคนร้าย จนเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ไม่เห็นคนร้ายมาพบ
นางหน่อยจึงได้สอบถามคนร้ายทางเฟซบุ๊กว่าจะมาหาหรือไม่ คนร้ายตอบกลับมาว่ามีตำรวจอยู่เต็มรีสอร์ท และได้ปล่อยตัวนายพงษ์บุตรชายไปแล้ว พร้อมกำชับนางหน่อยอย่าให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะตามไปทำร้ายนางหน่อยและลูกสาวที่บ้านด้วย
ส่วนสาเหตุ ที่นางหน่อยออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเกรงคนร้ายจะไปทำกับคนอื่นอีก แต่ก็ไม่ต้องการเอาเรื่องเอาราวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะไม่ได้เสียหายอะไรมาก มีเพียงเงิน 500 บาท ของลูกชายที่คนร้ายเอาไปเปิดรีสอร์ทใช้ขังลูกชายไว้เท่านั้น
ทั้งนี้ นายพงษ์ ยังเล่าอีกว่า หลังถูกกลุ่มชายดังกล่าวควบคุมตัว ก็ใช้ผ้าปิดตานำรถจักรยานยนต์นายพงษ์ที่ขี่มาขึ้นท้ายกระบะ และตัวนายพงษ์ไปไว้ที่แห่งหนึ่ง ซึ่งคาดเป็นรีสอร์ทตั้งอยู่แถวถนนอำเภอเขมราฐ–จ.อำนาจเจริญ ระหว่างถูกคุมตัวอยู่ในห้อง คนร้ายได้นำน้ำที่มีรสชาติขมมาให้ดื่ม ทำให้มีอาการมึนงงและง่วงนอน จนไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด ก็ได้ยินคนร้ายบอกว่า จะปล่อยตัวนายพงษ์ให้หาทางกลับไปบ้านเอง โดยได้ทิ้งรถและโทรศัพท์นายพงษ์ไว้ให้ด้วย หลังจากนั้นก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกทีเช้าวันต่อมา จึงขับรถออกมาแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยที่มีอาการมึนงงกับฤทธิ์ยาอยู่
และอยากฝากบอกผู้ใช้รถผ่านเส้นทางยุทธศาสตร์เขมราฐ–จ.อำนาจเจริญ หากมีคนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถในที่เปลี่ยว ไม่ควรหยุดรถ เพราะไม่รู้เป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นคนร้าย หากเป็นเจ้าหน้าที่จริง และต้องการจับกุมก็คงขับรถไล่ติดตามเอาเอง นายพงษ์กล่าวเตือนในที่สุด