ประเด็นคือ – นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ นายอาทิตย์ วิสุทสมาจาร ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์น้ำจับกุมชาวมาเลเซียลักลอบขนเต่าซูลคาต้า เข้ามาในประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต
วันที่ 27 ก.ย. 60 ที่ จ.สงขลา สืบเนื่องจากช่วงสายๆ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ด่านตรวจศุลกากรได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนเต่าซูลคาต้าโดยผิดกฎหมาย ผ่านเข้ามาในฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้เข้มงวดในการตรวจตรารถที่ผ่านออกมา และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจรถทุกๆ คันอยู่นั้น ได้มีรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน PFQ 5069 ประเทศมาเลเซีย กำลังขับผ่านมาตรงจุดตรวจเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น และได้ขับเร่งเครื่องแหกด่านไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังออกติดตามไล่ล่ารถคันดังกล่าว ซึ่งได้หลบหนีเข้าไปตามซอยต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสกัดรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณถนนเทศบาล 3 ซอย 2 และได้คุบตัวคนขับทราบชื่อภายหลังคือ ISMAIL BIN AHMAD คนขับ และได้ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่หลังรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปิดดู และได้พบเต่าซูลคาต้า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธ์ุ
จากการสอบสวนและตรวจสอบประวัต ผู้ต้องหาเพิ่งได้รับการประกันตัวจากคดีนำสัตว์ป่าสงวนพวกเต่าและลิงอุรังอุตังเข้ามาเมื่อช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่าน โดยครั้งนี้ได้นำเต่าซูลคาต้า มาให้กับนายทุนคนเดิม แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมบอกรายละเอียดว่า นายทุนที่ว่าจ้างชื่ออะไร เพียงแค่บอกว่าได้รับค่าจ้างขนในครั้งนี้ 300 เหรียญ (3,000 บาท) เท่านั้น
จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า เต่าพันธ์นี้จะขายกันเป็นตารางนิ้ว ตารางนิ้วละ 2,000- 3,500 บาท เต่าซูลคาต้าตัวนี้มีความยาวอยู่ที่ 18 นิ้ว ความกว้างอยู่ที่ 24 นิ้ว น้ำหนัก 30 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 90,000 – 100,000 บาท