Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องหมอนิ่มคดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ส่วนแม่รับโทษหนักประหารชีวิต สารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต ด้านทนายษิทรา มองศาลยกฟ้องหมอนิ่ม ไม่ใช่เรื่องแปลก!

วันที่ 7 ส.ค. 2561 ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย หมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรีเป็นโจทก์ฟ้อง นายจิรศักดิ์ หรือ จี กลิ่นคล้าย อายุ 47 ปี มือปืน, นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 76 ปี มารดาหมอนิ่ม, พญ.นิธิวดี หรือ หมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 42 ปี, นายสันติ หรือ อี๊ด ทองเสม อายุ 32 ปี ทนายความ และนายธวัชชัย หรือ อ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ เป็นจำเลย 1-5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ

ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้โทษ โดยให้ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี จากเดิมที่พิพากษาประหารชีวิต ทั้งนี้เนื่องจากหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคนจ้างวาน แต่พยานหลักฐานที่นำสืบมากลับรับฟังได้เข้ากับบันทึกคำให้การรับสารภาพของนางสุรางค์ มารดาของหมอนิ่ม ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 2 ว่าเป็นผู้จ้างวานให้คนกลางซึ่งตำรวจและอัยการกันไว้เป็นพยาน ติดต่อกับจำเลยที่ 4 ให้จ้างจำเลยที่ 1 (มือปืน) และจำเลยที่ 5 (คนขับรถจักรยานยนต์) ไปฆ่าผู้ตายวันเกิดเหตุ 19 ต.ค. 2556 คนละ 200,000 บาท โดยศาลจึงพิพากษาให้ประหารนางสุรางค์ มารดาของหมอนิ่ม แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงละลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ส่วนทนายอี๊ดจำเลยที่ 4 ลงโทษประหารสถานเดียว ขณะที่มือปืน จำเลยที่ 1 และคนขี่จักรยานยนต์ จำเลยที่ 5 ให้จำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้จำเลยที่ 1, 2, 4 และ 5 ร่วมกันชดใช้เงิน 2.5 ล้านให้กับครอบครัวนายจักรกฤษณ์ ทั้งนี้ นางสุรางค์ มารดาของหมอนิ่ม ซึ่งทางทนายเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดและหลักทรัพย์อื่นประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวสู้คดีในชั้นศาลฎีกา
สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 59 ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว หมอนิ่ม และ นายสันติ หรือ ทนายอี๊ด ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์ และมือปืน ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ นางสุรางค์ มารดาหมอนิ่ม ให้ยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้หมอนิ่มประกันตัว โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท

ขอบคุณแฟ้มภาพ เพจ อีจัน

ย้อยรอยคดีจ้างวานฆ่า “เอ็กซ์ จักรกฤษณ์” 

นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย ถูกมือปืนลอบสังหารเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2556 บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง หลังเกิดเหตุตำรวจได้สืบสวนและแกะรอยจนสามารถจับกุมเจ๊แหม่ม คนรับงานและจัดหามือปืน จากนั้นได้ทำการขยายผลจับกุมนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ (หมอนิ่ม) ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ โดยนางสุรางค์ อ้างว่ารู้สึกโกรธที่นายจักรกฤษณ์ทำร้ายลูกสาวจนถึงขั้นแท้งลูกคนที่ 3 ทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

19 ธ.ค. 2559 ศาลจังหวัดมีนบุรี อ่านคำพิพากษาคดีหมอนิ่ม และพวกรวม 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยง ส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน โดยยิงปืนในที่สาธารณะ จากกรณีร่วมกันจ้างวานกลุ่มมือปืนให้ไปสังหารเอ็กซ์ จนถึงแก่ความตายเมื่อปี 2556 ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตหมอนิ่มและทนายอี๊ด สถานเดียว ส่วนกลุ่มมือปืนและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 ราย ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นางสุรางค์ ศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องโดยทนายความของหมอนิ่มยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวหมอนิ่ม

20 ธ.ค. 2559 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งอนุญาตประกันตัวหมอนิ่ม ตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท

8 พ.ค. 2561 ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ กับจำเลยทั้ง 5 แต่ภายหลัง ศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นวันที่ 21 มิ.ย. 2561 เนื่องจากคำพิพากษายังไม่แล้วเสร็จ ประกอบทนายฝั่งโจทก์ขอเลื่อนเป็น 26 มิถุนายน 2561

26 มิ.ย. 2561 ศาลนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ แต่ทนายอี๊ดไม่เดินทางมารายงานตัวต่อศาล และเนื่องจากจำเลยเดินทางมาไม่ครบ ไม่เข้ารายงานตัวตามนัดและยังติดต่อไม่ได้ ศาลจึงมีคำสั่งออกหมายจับ ฐานหลบหนีคดี และเลื่อนฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 7 ส.ค. 2561

ก่อนเกิดเอ็กซ์ถูกสังหาร ย้อนกลับไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับครอบครัว ‘พณิชย์ผาติกรรม” 

  • 11 ก.ค. 2556 นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม (แม่ของเอ็กซ์) และ หมอนิ่ม เข้าแจ้งความกับตำรวจหลังถูกเอ็กซ์ทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ โดยอ้างว่าเอ็กซ์ติดยาไอซ์อย่างหนักจนประสาทหลอน ขณะที่เอ็กซ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยเสพยาเสพติดจริง แต่ปัจจุบันได้เลิกหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นแค่ปัญหาหึงหวงเท่านั้น
  • 12 ก.ค. 2556 ตำรวจบุกค้นบ้านของเอ็กซ์ พบวัสดุคล้ายเครื่องเสพสารบางอย่าง และที่บรรจุสารบางอย่างทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งพบปืนออโตเมติก 2 กระบอก บรรจุเครื่องกระสุนปืน, ปืนลูกซองยาว 1 บอก, ปืนยาวอยู่ในตู้ 1 กระบอก และข้างเตียงนอนพบมีดสปาร์ต้า 1 เล่ม ตรงตามที่ พญ.นิธิวดี แจ้งว่าถูกใช้มีดเล่มดังกล่าวข่มขู่
  • 13 ก.ค. 2556 ตำรวจจับกุมเอ็กซ์ พร้อมตั้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำความรุนแรงในครอบครัว พร้อมกับคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจจะกลับไปทำร้ายหรือข่มขู่พยาน
  • 15 ก.ค. 2556 ตำรวจนำตัวเอ็กซ์ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 4 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการใช้กำลังขู่เข็ญ และขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน รวม 8 ข้อหา พร้อมคัดค้านการประกันตัว
  • 18 ก.ค. 2556 หมอนิ่มพร้อมญาติ ปลอมหนังสือมอบอำนาจเข้าไปไขเอาทรัพย์สินมูลค่า 60 ล้านบาทของเอ็กซ์ในตู้เซฟที่ธนาคารกสิกรไทย สุขาภิบาล 3
  • 19 ก.ค. 2556 ตำรวจนำตัวเอ็กซ์ จากศาลมีนบุรีไปฝากขังศาลทหาร เพราะมียศ จ.ส.อ. สังกัดกองทัพภาคที่ 2
  • 8 ส.ค. 2556 ขณะอยู่ในห้องคุมขัง เอ็กซ์ ได้เขียนจดหมายถึงสรยุทธ พิธีการชื่อดังและยังไม่ทราบว่าทรัพย์สินถูกนำออกจากเซฟ
  • 19 ส.ค. 2556 คดีเอ็กซ์ถูกโอนไปยังศาลทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ศาลอนุญาตให้ประกันตัวเอ็กซ์ หลังจากหมอนิ่มคัดค้านมา 3 ครั้ง หลังออกจากเรือนจำแล้วเอ็กซ์ ปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวกับพยานคนหนึ่งและเปรยว่า จะมีลมหายใจอยู่ถึงเมื่อไรยังไม่รู้  เพราะทะเลาะกับครอบครัวของหมอนิ่มถึงขั้นชี้หน้าด่าทอและเคยถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตกันด้วย เอ็กซ์ทะเลาะกับหมอนิ่มหลายต่อหลายครั้ง และพยายามจะขอคืนดีด้วย แต่หมอนิ่มไม่ยอม เอ็กซ์จึงโทรไปขอความช่วยเหลือจากแม่ใหญ่ คือแม่ของพี่ชายต่างมารดาของหมอนิ่ม หวังให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม ซึ่งแม่ใหญ่ก็รับปากจะช่วย
  • เอ็กซ์ ได้ยินเสียงแม่ใหญ่ทางโทรศัพท์ ที่วางสายไม่สนิทว่าแม่ใหญ่คุยกับคนในครอบครัวประมาณ 3-4 คน ด่าทอเอ็กซ์อย่างสาดเสียเทเสีย และมีการวางแผนกำจัดให้พ้นออกไปจากครอบครัว อีกทั้งยังมีการพูดถึงทรัพย์สินหลายอย่างด้วย ทำให้เอ็กซ์เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เดินทางไปอาละวาดที่บ้านแม่ใหญ่ทันที
  • 4 ก.ย. 2556 เอ็กซ์ เข้าแจ้งความว่าถูกภรรยาลักลอบขนทรัพย์สินในตู้นิรภัยจากธนาคาร ทั้งที่เคยตกลงกับธนาคารไว้แล้วว่า เอ็กซ์ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเปิดตู้นิรภัยนี้ได้ แต่ทางธนาคารกลับยินยอมให้ภรรยาเข้าไปเปิดตู้นิรภัย
  • 5 ก.ย. 2556 หมอนิ่มปฏิเสธข้อกล่าวหาลักทรัพย์จากตู้เซฟของธนาคาร โดยระบุว่า เอ็กซ์ เคยมอบกุญแจเซฟไว้ให้ 1 ดอก และอนุญาตให้ไขได้ตลอดเพราะถือเป็นทรัพย์สินร่วมกัน โดยอ้างว่าช่วงที่ไปเยี่ยมเอ็กซ์ในเรือนจำ ถูกขู่ว่าหากออกจากเรือนจำไปได้จะนำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดไปซื้อรถยนต์และไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ และในฐานะแม่จึงต้องกันทรัพย์สินส่วนหนึ่งไว้เพื่อลูก จึงได้เข้าไปเปิดตู้นิรภัย และนำทรัพย์สินส่วนตัวบางส่วนที่ทำร่วมกันออกมา หมอนิ่ม ให้การว่า หลังจากเอ็กซ์ออกจากเรือนจำมา แม้จะไม่มีพฤติกรรมข่มขู่-ติดตามหรือทำร้ายรายงกายแล้ว แต่มีคำพูดบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจ เช่น ถูกขู่ว่าจะทำให้หมอนิ่มหมดอนาคตในวิชาชีพด้วยการทำให้ถูกยึดใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และเอ็กซ์ก็เคยพูดว่าจะทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสมบูรณ์แบบ จนหมอนิ่มต้องขอให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ช่วยคุ้มครองตัวเองและลูกทั้ง 2 คน

ทนายษิทราบอกศาลยกฟ้องหมอนิ่ม ไม่ใช่เรื่องแปลก!

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกยกฟ้องหมอนิ่ม !! วิเคราะห์จากคนไม่เห็นสำนวนนะครับ คดีนี้มือปืน กับคนขี่รถ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยซัดทอดไปที่คนจ้างวานฆ่าคือ ทนายอี๊ด แต่ทนายอี๊ดปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากเป็นดังนี้ พยานหลักฐานอย่างมากก็ถึงแค่ตัวทนายอี๊ดเท่านั้น กลับกันหากทนายอี๊ดรับสารภาพแล้วซัดทอดผู้บงการตนมาอีกที แบบนี้คงไม่รอดกันหมด

ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวน คดีนี้แม่หมอนิ่มรับสารภาพ และน่าจะมีสาเหตุโกรธเคืองกับคนตาย ก็สามารถลงโทษจำคุกตลอดชีวิตได้ ส่วนจริงๆ แล้วใครจะเป็นผู้บงการ ไม่มีใครรู้นอกจาก 2-3 คน คือหมอนิ่ม แม่หมอนิ่ม และทนายอี๊ดแค่นั้น ศาลไม่สามารถใช้ความรู้สึกตัดสินคดีได้ แม้บางครั้งอาจจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่มันคือเรื่องนอกสำนวน ไม่สามารถนำมาประกอบดุลพินิจได้เลย…

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า