ผู้ก่อเหตุพร้อมชดใช้ ! หลังยิงหนุ่มผิดตัว-กระสุนฝังคอ แต่ติดต่อคนเจ็บไม่ได้

กรณีที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขี่ จยย. ไล่ยิงรถเก๋งจนกระสุนโดนหนุ่มเจ็บหนัก เพราะคิดว่าภรรยาตัวเองนอกใจไปกับชายอื่น ล่าสุดผู้ก่อเหตุเผย ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้ ยืนยันชดใช้ค่าเสียหาย

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 61 เวลา 21.30 น. นายรุ่ง ท้วมบริบูรณ์ อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดงดำ ป้ายทะเบียน 3กท-5581 กรุงเทพมหานคร

https://www.youtube.com/watch?v=LeFzbvxk6N8

พร้อมกับใช้ปืนออโตเมติก ขนาด 11 มม. ไล่ยิง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 5 กต-8126 กรุงเทพมหานคร ที่มี นายอานนท์ มณีวงษ์ อายุ 24 ปี หนุ่มพนักงานขายโทรศัพท์ดีแทคเป็นคนขับ และมี น.ส.ศิรินันท์ ดวงจันทร์ อายุ 25 ปี แฟนสาวนั่งมาด้วยกัน โดยกระสุนปืนถูกยิงเข้าที่ ต้นคอนายอานนท์ 1 นัด ส่วนแฟนสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันมีคลิปจากโทรศัพท์มือถือของ น.ส.ศิรินันท์ ที่ได้อัดคลิปไว้บางช่วง ซึ่งในคลิปจะได้ยิงเสียงโวยวายของนายรุ่ง ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม รวมถึงเสียงปืน

เมื่อนายรุ่ง (ผู้ก่อเหตุ) ได้ยิงปืนจนทำให้มีคนเจ็บ ก็ได้จอดรถเข้าไปถามนายอานนท์ (คนเจ็บ) ว่า “แฟนของเขาอยู่ในรถหรือไม่” เมื่อไม่เห็นแฟนของตัวเองอยู่ในรถ จึงถามว่า “ได้รับบาดเจ็บตรงไหนให้รีบไปหาหมอก่อน” จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนถูกตำรวจจับได้ในเวลาต่อมา

ซึ่งสาเหตุที่นายรุ่งไล่ยิงรถคันนี้ เนื่องจากว่า ทะเลาะกับภรรยา นึกว่าภรรยาจะหนีไปกับชายอื่น และเห็นว่ารถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าบ้านแม่ยาย จึงได้ขับรถตามและเรียกให้คนขับหยุด แต่คนขับไม่ยอมหยุด จึงใช้อาวุธปืนที่พกมายิงไปที่รถเพื่อสกัดให้หยุด แต่กระสุนกลับโดนคน จนมีผู้บาดเจ็บ”

โดยอาการล่าสุด นายอานนท์บอกว่า

นายอานนท์ (คนเจ็บ) บอกว่า “ขณะนี้กระสุนปืนก็ยังฝังอยู่ในคอ ยังไม่สามารถผ่าตัดออกมาได้ เพราะอาจจะทำให้พิการ และต้องไปล้างแผลทุกวัน”

พี่สาวหนุ่มถูกยิงผิดตัวร้อง ผช.ผญบ.รับผิดชอบ

ขณะที่เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พ.ค.61 น.ส.จิตรลดา มณีวงษ์ พี่สาวนายอานนท์ (คนเจ็บ) บอกว่า หลังเกิดเหตุ ฝ่ายของผู้ต้องหาหรือญาติๆ ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย ซึ่งเธออยากให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องรถที่ต้องซ่อม เพราะเป็นรถของเพื่อนน้องชาย ส่วนตัวน้องชายนั้นเวลานี้ยังไม่สามารถผ่าตัดกระสุนปืนออกมาได้ แพทย์บอกว่า ถ้าผ่าตัดออกมาก็เสี่ยงพิการ เพราะอาจจะทำให้ไปโดยเส้นประสาท

ซึ่งหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ต้องไปล้างแผลทุกวัน โดยวันที่ 30 พ.ค. 61 นี้ ก็ต้องไปหาหมอเพื่อดูความคืบหน้าและดูอาการอีกครั้ง

ส่วนเรื่องคดีนั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ต้องหาเป็นถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยินดีชดใช้ค่าเสียหาย

ในวันนี้ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้พูดคุยกับนายรุ่ง (ผู้ก่อเหตุ) หลังจากศาลได้ให้ประกันตัว ใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาท นายรุ่งได้เปิดใจว่า ที่ผ่านมาเขาและครอบครัวมีความพยายามที่จะเข้าไปขอโทษครอบครัวของนายอานนท์ มณีวงษ์ ผู้บาดเจ็บ แล้ว ภายหลังจากได้ประกันตัว ออกจากศาลคืนเดียว ก็มีความดิ้นรนไปที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา เตรียมกระเช้า และดอกไม้จะเข้าไปขอโทษ

แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า นายอานนท์ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้ขอโทษด้วยตัวเอง ซึ่งทางภรรยาของเขา ได้ขอเบอร์ติดต่อทางคู่กรณีแล้ว แต่ทางพี่สาว นายอานนท์ ไม่ได้ให้ แต่ได้ขอเบอร์ของตนไป และบอกเพียงว่าจะติดต่อกลับเอง สุดท้ายก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ

หลังจากนั้นเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา เขาและครอบครัวก็มีความพยายามจะขี่รถจักรยานยนต์เพื่อตามหาบ้านของนายอานนท์ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก แต่ก็ไม่เจอ

เขายอมรับทุกข้อกล่าวหาและสำนึกผิดต่อการกระทำ และอยากให้ทางคู่กรณีติดต่อกลับมา ยินดีที่จะจ่ายรักษาค่าพยาบาลให้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เตรียมเงินสำหรับค่าซ่อมรถ 12,000 บาท ส่วนค่ารักษาพยายามก็ขอให้เข้ามาคุยกัน ตนอาจมีไม่มากนักแต่ก็จะพยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งสาเหตุที่ให้ตามไปยิงนายอานนท์ เพราะความเข้าใจผิด เนื่องจากเห็นรถนายอานนท์จอดอยู่ใกล้กับบริเวณปากซอยพอดี

ในขณะเดียวกันทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับภรรยา น.ส.อุ๋ย (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) ภรรยาของนายรุ่ง ยอมรับว่านายรุ่งมีนิสัยหึงหวงจริง ทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อย เหตุจากเธอทำงานประจำ นายรุ่งอยากให้เธอออกจากงาน และอยากให้มาใช้ชีวิตด้วยกัน แต่เธอมองว่างานที่ทำดีอยู่แล้ว รายได้มั่นคง จึงทำให้มีปากเสียงเรื่องนี้มาตลอด

ทีมข่าวถามต่อว่า ทะเลาะกันถึงขนาดนี้มีความคิดจะเลิกกันเลยหรือไม่ น.ส.อุ๋ย ยืนยันว่า แม้จะทะเลาะกันหนักแต่ก็ไม่คิดจะเลิก เพียงแต่บางครั้งหากมีปากเสียงกันเธอแค่หนีออกไปนอนบ้านพี่สาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายรุ่ง เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างใจเย็นลงก่อน และยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องมือที่สามแต่อย่างใด