หึงเมียน้อยแย่งปืนกัน กระสุนลั่นถูกสามีดับ

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหึงหวงเมียน้อยถือปืนมาขู่เกิดการยื้อแย่งปืนลั่นถูกสามีดับ ด้านเมียหลวงที่อยู่บ้านเดียวกันบอกยอมให้เข้ามาอยู่ด้วยกันเพราะตนเองสุขภาพไม่ดี พบทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยแต่ไม่หนักเท่าครั้งนี้

วันที่ 2 ธ.ค. พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คุมตัวนางศิริเพ็ญ คำดง อายุ 38 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเกิดเหตุทะเลาะกับนายมานิตย์ ศรีออน อายุ 58 ปี สามีซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านทรายมูล ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จนมีการยื้อแย่งอาวุธปืนและปืนเกิดลั่นกระสุนเจาะทะลุกลางอกนายมานิตย์จนเสียชีวิต ขณะที่นางศิริเพ็ญ ถูกกระสุนปืนลั่นโดนมือจนทะลุเป็นแผลฉกรรจ์

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดที่ บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 5บ้านทรายมูล ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุนางพรรณี อายุ 64 ปี ภรรยาหลวง ซึ่งอยู่ในบ้านหลังเดียวกันได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

สอบสวนนางศิริเพ็ญ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปดื่มเบียร์กับเพื่อน จากนั้นช่วงหัวค่ำก็ไปดื่มต่อที่งานศพ ซึ่งนายมานิตย์สามีก็มาตามหา จนตนเองขี่รถจักรยานยนต์หนีกลับมาบ้าน ไม่นานนายมานิตย์ก็ตามมาและถืออาวุธปืนมาเคาะประตูเรียกด้วยความกลัวจึงพยายามจะวิ่งหนี แต่นายมานิตย์ก็วิ่งตามมาจนเกิดการแย่งปืนจนปืนลั่นถูกนายมานิตย์เสียชีวิต โดยตนเองไม่ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้และไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย หลังมีปากเสียงกันก็ตั้งใจจะหนีไปนอนที่บ้านยายแล้ว แต่นายมานิตย์ไม่ยอม ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน

ขณะที่นางพรรณี ภรรยาหลวงไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของสามี โดยบอกว่าที่ผ่านมาทั้งคู่มักทะเลาะและมีปากเสียงกันบ่อยครั้งเรื่องความหึงหวง ส่วนสาเหตุที่ยอมให้สามีมีภรรยาน้อย เป็นเพราะตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพมานานหลายปี จึงบอกกับสามีว่าหากอยากมีภรรยาใหม่ก็ได้ จากนั้นนายมานิตย์ก็พานางศิริเพ็ญเข้ามาอยู่ในบ้านซึ่งก็อยู่ด้วยกัน 3 คน มานานกว่า 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนเห็นสามีและนางศิริเพ็ญภรรยาน้อยทะเลาะกันบ่อยครั้ง เรื่องความหึงหวงแต่ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงจนกระทั่งครั้งนี้

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากระทำการด้วยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไว้ก่อน จากนั้นจะรวบรวบพยานหลักฐาน และ สอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากพบว่าเป็นการป้องกันตัวโดยชอบ นางศิริเพ็ญผู้ต้องหาก็จะไม่ถูกดำเนินคดีซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ของนายมานิตย์ผู้เสียชีวิต พบว่าไม่มีทะเบียน จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้ว จึงจะมีคำสั่งไม่ฟ้องในภายหลังต่อไป