ชีวิตหนักอึ้ง ของ “อดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติ” โรครุมเร้า พยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง

“เกสร ชูบาล” อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย และแชมป์ยกน้ำหนักมหาวิทยาลัยโลก ปี 2546 รวมทั้งเป็นอดีตแชมป์นักวิ่งเจ้าลมกรดหลายสนาม ปัจจุบันโรคภัยรุมเร้า ป่วยทางระบบประสาท เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ต้องอาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการ เเละเงินสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 61 ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 6 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้สื่อข่าว พบ น.ส.เกสร ชูบาล อายุ 36 ปี อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย และแชมป์ยกน้ำหนักมหาวิทยาลัยโลก ปี 2546 รวมทั้งเป็นอดีตแชมป์นักวิ่งเจ้าลมกรดหลายสนาม

วันนี้เธอกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังล้มป่วยด้วยโรคทางระบบประสาท โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง มาตั้งแต่ปี 48 ซึ่งเธอมีรายได้จากเงินคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาท และจากสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยอีกเดือนละ 300 บาท แต่เธอต้องจ่ายเงินกองทุนกู้ยืมการศึกษา เดือนละ 500 บาท ทุกเดือน แม้ที่ผ่านมาไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร และเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง แต่กำลังใจจากญาติพี่น้องและคนรอบข้าง ทำให้เธอต่อสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้

ซึ่ง น.ส.เกสร ชูบาล เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า จากความผิดหวังและพ่ายแพ้จากการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักครั้งสุดท้าย เมื่อปี 48 ตนก็มีอาการทางสมองและประสาทเกิดขึ้น นอนไม่หลับ มีภาพหลอน ซ้ำๆ วนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา และได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดตรัง เพื่อรักษาตัว ซึ่งแพทย์ตรวจวินิจฉัยว่า เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท จนถึงขั้นไม่สามารถควบคุมสภาวะจิตใจให้เป็นปกติได้

จากวันนั้นถึงวันนี้ เธอมีอาการทางระบบประสาทมา 13 ปี ไม่ได้รับการดูแลเยียวยาจากหน่วยงาน หรือสมาคมไหนเลย แต่เธอและครอบครัวก็ไม่เคยที่จะออกไปร้องขอ ยอมรับกับโชคชะตา กรีดยางหาเงินเป็นค่ารถเพื่อเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี

ต่อมายะระหลังๆ ไม่สามารถเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลได้ ด้วยปัญหาทางด้านการเงิน เธอจึงขอรับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสราญรมย์ ให้ส่งรายละเอียดการรักษาและตัวยามายังโรงพยาบาลย่านตาขาว จ.ตรัง ทำให้เธอมีความสะดวกมากขึ้น แต่ก็ต้องขี่รถจักยานยนต์เป็นระยะทางไปกลับกว่า 80 กม. เพื่อไปรับยา

นอกจากป่วยทางระบบประสาท เธอยังเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทุกวันนี้ทำได้เพียงช่วยแม่ที่ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อม เก็บน้ำยาง

ก่อนหน้านี้เคยคิดฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดลงบ่อน้ำ วิ่งให้รถชน เอามีดมาทำร้ายร่างกายตัวเอง แต่เธอมีแม่ ป้า น้องๆ คอยดูแลให้กำลังใจ เธอจึงยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และจะใช้ชีวิตที่เหลือกับครอบครัว