อดีตภรรยาให้ข้อมูล รถที่ครอบครัวสลบขับเคยมีอาการแบบนี้

พบปมครอบครัวสลบคารถระหว่างอยู่บนทางด่วนมุ่งหน้าบางแสน ภรรยาเก่าให้ข้อมูลรถมีปัญหามานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยขับไกลใช้วิ่งเฉพาะในกรุงเทพฯ

กรณีครอบครัวขับรถบนทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อจะไปบางแสนแล้วเกิดวูบหมดสติ เจ้าหน้าที่รีบเขย่ารถเรียก โดยคนขับมีอาการ เกร็ง ลิ้นแข็ง และปัสสาวะราด ส่วนหญิงสาวที่นั่งมาด้วยหมดสติอยู่ในอาการตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ปัสสาวะราด ชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว และเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นอนหมดสติ อยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ โดยคนขับให้ข้อมูลว่าได้กลิ่นคล้ายควันท่อไอเสียในรถ

วันที่ 12 พ.ย. เวลา 18.00 น. นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ อายุ 31 ปี ผู้ที่ขับรถแล้วหมดสติได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังแพทย์โรงพยาบาลทหารเรือ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้อนุญาตให้ นายธนัยนันท์ พร้อมด้วยบุตรสาวออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านได้ ส่วนน.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี แฟนสาวของนายธนัยนันท์ ยังต่ออยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีก 1 คืน

นอกจากนายธนัยนันท์แล้ว อดีตภรรยาที่เป็นแม่ของเด็กหญิงวัย 7 ขวบร่วมเข้าให้การด้วยโดยตำรวจใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 30 นาทีเศษ จากนั้นทั้งสองคนเดินทางกลับโดยไม่ยอมพูดคุยหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

ร.ต.อ.สุริยา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ผู้ประสบเหตุหมดสติในรถได้เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องของการใช้รถ โดยอดีตภรรยาของนายธนัยนันท์ ซึ่งเป็นผู้ใช้รถคันเกิดเหตุอยู่เป็นประจำบอกว่า อาการมีกลิ่นเหม็นไหม้ลักษณะนี้ได้เคยเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วตั้งแต่ทั้งสองคนยังไม่ได้เลิกรากันเมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่ที่ผ่านมาใช้งานรถคันนี้เพียงแค่ภายในกรุงเทพฯเท่านั้น ยังไม่เคยใช้รถขับออกไปไหนในระยะทางไกลๆ มาก่อน

ตำรวจจะได้เร่งรัดประสานให้เจ้าหน้าที่วิศวกรรมยานยนต์ จากกรมการขนส่งทางบกช่วยมาทำการตรวจสอบรถยนต์คันนี้ให้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถือเป็นเหตุเร่งด่วนเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป

ทั้งนี้ ผลการตรวจเลือดของแพทย์ผู้รักษาพบว่าทั้งสามคนที่หมดสติภายในรถมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์อยู่ในกระแสเลือด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมีอาการสะลึมสะลืออ่อนเพลียมึนงงก่อนที่จะช็อกหมดสติไป