อัจฉริยะ แจ้งความแล้ว แฉ รพ.ไม่มีแพทย์ตอนสาวถูกน้ำกรดไปรักษา

ทนายอัจฉริยะเปิดข้อมูลตอนหญิงสาวถูกสาดน้ำกรดเข้าไปที่โรงพยาบาลแรกไม่มีหมอประจำอยู่ตามอ้างว่าเข้าห้องน้ำ และไม่มีการประสานส่งตัวไปโรงพยาบาลที่ 2 แค่ส่งผู้ป่วยขึ้นแท็กซี่เท่านั้น แจ้งความเอาผิดแล้ว 

จากกรณีหญิงสาวอายุ 38 ปี ถูกสามีสาดน้ำกรดใส่ ต่อมาเธอพร้อมลูกวัย 12 ปี ขึ้นแท็กซี่ไปรักษายังโรงพยาบาลพระราม 2 ก่อนจะเดินทางต่อไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางมด โดยมีข้อสงสัยเรื่องโรงพยาบาลแรกปฏิเสธการรักษาหรือไม่ ขณะที่ทางโรงพยาบาลพระราม 2 แถลงว่า ผู้ป่วยปฏิเสธการรักษาเองเพราะต้องการใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลอื่น

วันที่ 13 พ.ย. เวลา 20.00 น. นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ แม่และลูกสาวเดินทางจากบ้านหลังถูกกรดซัลฟูริกสาดที่หน้าอกและศีรษะ น้ำกรดได้เข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้างเข้าสู่หลอดลมลงไปที่ปอด ลูกสาวพาแม่เดินไปปากซอย 300 เมตรไปขึ้นแท็กซี่

สิทธิชัย คนขับแท็กซี่คันแรก

ตนเองตามเจอนายสิทธิชัย โชเฟอร์แท็กซี่คนแรกที่รับแล้ว ได้ให้ข้อมูลว่า รับขึ้นรถตอน 05.00 น.หญิงสาวมีอาการแสบร้อนที่หน้าบอกให้ไปส่งโรงพยาบาลบางมด แต่เนื่องจากเห็นว่ามีอาการหนักมากร้องครวญครางตลอดเลยตัดสินใจส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะเชื่อว่าเมื่อถึงมือหมอคงจะปลอดภัยจึงไปที่โรงพยาบาลพระราม 2 ที่ใกล้กว่ามาก ตอนไปส่งไม่มีใครเลยพอลูกสาวจ่ายเงินเสร็จจึงรีบลงรถไป ตนตามไปในห้องฉุกเฉินไม่เห็นมีหมอประจำอยู่ มีเพียงเจ้าหน้าที่ และแม่บ้าน อาการผู้ป่วยยังร้องต่อเนื่องโดยบอกว่าโดนน้ำร้อนมา เชื่อว่าเจ้าตัวก็คงไม่รู้ว่าโดนสาดน้ำกรดเพราะโดนตอนนอนหลับ

“เชื่อว่าถ้ามีหมออยู่น่าจะวินิจฉัยว่าโดนน้ำกรดหรือน้ำร้อนได้แล้วคงช่วยชีวิตได้” โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวในคลิปที่บันทึกไว้

นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า ตอนที่ไปถึงคือ 05.30 น. ผู้ป่วยอยู่ในสภาพหน้าตา ปาก แก้มบิดเบี้ยวไปครึ่งซีกเพราะถูกน้ำกรดกัด และไม่ได้มีการทายาสีฟันตามที่กล่าวอ้าง ขั้นตอนจากนั้นมีการพันแผลให้ก่อนจะให้ไปที่โรงพยาบาลบางมด โดยตามรถแท็กซี่ให้ แต่ไม่ได้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลบางมดปลายทางตามที่มีการกล่าวอ้าง

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแรก ยอมรับกับตนเองว่า ไม่มีหมออยู่ในที่เกิดเหตุตามที่อ้างว่าเข้าห้องน้ำอยู่แม้แต่คนเดียว การตัดสินใจทั้งหมดเกิดขึ้นจากพยาบาลที่ทำแผลให้ ส่วนการบอกว่า ผู้ป่วยเดินไปขึ้นแท็กซี่เองก็ไม่จริง มีเจ้าหน้าเวรเปลไปส่งขึ้นแท็กซี่ให้ ทั้งที่โรงพยาบาลก็มีรถฉุกเฉินอยู่ 2 คัน

ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาลปลายทางผู้ป่วยอาการหนักมากแล้ว เมื่อเอาผ้าพันแผลออกหน้ามีรอยไหม้ดำเพราะถูกน้ำกรดกัด มีสารคัดหลั่งออกจากปากและจมูกก่อนจะหมดสติ เมื่อดูดของเหลวจากปอดพบเลือดปนน้ำ 2,200 ซีซี และเสียชีวิตเพราะระบบหายใจล้มเหลว หลังใช้เวลาช่วยชีวิตอยู่ 30 นาที โดยโรงพยาบาลบางมดส่งมอบกล้องวงจรปิดให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว

ผลการชันสูตรโดยโรงพยาบาลศิริราชอย่างไม่เป็นทางการ พบระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่าได้มีการแจ้งความกับผู้บริหารและที่ปรึกษาโรงพยาบาลพระราม 2 แล้ว จากกรณีไม่มีการจัดแพทย์ตลอดเวลาทำการของโรงพยาบาลทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงไม่ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรฐานวิชาชีพ และปฏิเสธการรักษา ถือเป็นการกระทำเข้าข่ายประมาทจนมีผู้เสียชีวิต เป็นความผิดตาม  พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และผิดกฎหมายอาญา มาตรา 291

ส่วนเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาทจะมอบให้กับลูกสาวผู้เสียชีวิตทั้งหมด