อัยการสั่งฟ้อง 11 ข้อหา “ผู้กองเหน่ง” โทษหนักฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ประเด็นคือ – คืบหน้าคดี ผอ.อ้อย อัยการสั่งฟ้องผู้กองเหน่งผู้ต้องหาฆ่า ผอ.อ้อย 11 ข้อหา 13 กระทง โทษหนักฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมคัดค้านการประกันตัว

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการ จ.กันทรลักษ์ เปิดเผยว่า พนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 38 ปี อดีต ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปนานกว่า 3 เดือนเศษ ซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องได้ออกตามหา และพบโครงกระดูก นาฬิกา และเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่บริเวณริมถนนทางขึ้นเนิน 500 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ พบว่าเป็นกระดูกของ ผอ.อ้อย ไปส่งฟ้องต่อศาล จ.กันทรลักษ์ โดยมี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กับพวก รวม 4 คน เป็นผู้ต้องหาของคดีนี้ ซึ่งสำนวนคดีมีจำนวน 4 แฟ้ม ประมาณ 3,000 หน้า ซึ่งนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ ผอ.อ้อย รวมทั้งญาติพี่น้องได้มาติดตามเรื่องนี้ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ด้วย

โดยการส่งฟ้องครั้งนี้ยังไม่ได้มีการเบิกตัวผู้กองเหน่ง ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ มาที่ศาลแต่อย่างใด คาดว่าจะนำตัวมาที่ศาลในวันที่ 8 ม.ค.61 โดยพนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้คัดค้านการประกันตัวจำเลยที่ 1 คือผู้กองเหน่ง ส่วนจำเลยที่ 2 – 4 ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ร่วมกันเอาเสียเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม

นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการ จ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า แม้ว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนจะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาครบถ้วน เช่น พยานทางโทรศัพท์ การติดต่อทางโทรศัพท์ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานทางโทรศัพท์ที่ชี้ชัดว่า ผอ.อ้อยและผู้ต้องหาไปด้วยกันตลอดในวันที่ ผอ.อ้อยหายตัวไป โดยขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับ ร.อ.ศุภชัย จำนวน 11 ข้อหา รวม 13 กระทง

โดยข้อหาหนักที่สุดคือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ลอบฝังซ่อนเร้นอำพรางศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล จ.กันทรลักษ์

ทางด้าน นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนดีใจที่พนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้สั่งฟ้องผู้กองเหน่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าลูกสาวของตนจะไม่ตายฟรี ซึ่งทุกครั้งที่จะมีการพิจารณาของศาล จ.กันทรลักษ์ คดีลูกสาวของตนที่ถูกฆ่า ตนกับญาติพี่น้องจะพากันมาที่ศาล เพื่อติดตามรับฟังการพิจารณาของศาล ซึ่งตนหวังว่าผู้ต้องหาจะได้รับโทษอย่างสาสมตามกฎหมาย เพื่อให้ลูกสาวของตนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดนอนตายตาหลับ ตนเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ต้องหารายนี้อย่างแน่นอน