SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – อัยการยื่นอุทธรณ์ขอไม่รอลงอาญา “น็อต กราบรถ” ขณะศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งคุก 1 ปี รอลงอาญา 2 ปี ด้านเจ้าตัวโพสต์ไอจีขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือ

วันที่ 13 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัครณัฐ หรือ นายธีร์ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ “น็อต กราบรถ” อายุ 30 ปี อดีตพิธีกรและนักแสดง กับ นายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และกระทำการอันเป็นการรังแก หรือข่มเหงผู้อื่นให้ได้รับความอับอาย

โดยคำฟ้องอัยการสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 59 จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ดึงกระชากคอเสื้อของนายกิตติศักดิ์ หรือบอย สิงห์โต อายุ 27 ปี พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ผู้เสียหาย คู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์จากที่นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ มาอีกฝั่งหนึ่งของถนนบริเวณปาก ซ.เจริญกรุง 44 แขวง-เขตบางรัก ที่มีรถยนต์ยี่ห้อ “มินิ” ของนายอัครณัฐ จำเลยที่ 1 จอดอยู่ แล้วใช้ฝ่ามือตบที่ใบหน้าของผู้เสียหาย 2 ครั้ง และต่อยที่บริเวณใบหน้าอีก 1 ครั้ง ทำให้กระดูกจมูกชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นหัก และกระดูกจมูกชิ้นเล็กอีกจำนวนหลายชิ้นหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาทั้งสองข้าง และแก้มด้านซ้ายบวม ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส หลังจากนั้น จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันข่มขืนใจผู้เสียหายให้กราบรถยนต์ของนายอัครณัฐ จนทำให้ผู้เสียหายต้องจำยอมกราบรถจำเลยที่ 1 โดยไม่ได้สมัครใจ ซึ่งเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้เสียหายให้ได้รับความอับอาย จนกลายเป็นวลีดัง “กราบรถกู” ทั้งนี้ นายอัครณัฐ กับพวก ให้การรับสารภาพ พร้อมกับยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีเป็นเงิน 1.8 แสนบาท โดย นายนายธีร์ เดินทางมาที่ศาลพร้อมด้วยญาติและทนายความ

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2560 พิพากษาจำคุก นายอัครณัฐ กับ นายวิทวัส เป็นเวลา 2 ปี จำเลยทั้งสองให้การสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติด้วย เป็นระยะเวลา 4 ครั้ง ใน 1 ปี และให้ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลไม่รอการลงโทษเฉพาะจำเลยที่ 1 เพียงคนเดียว เนื่องจากมีการนำคดีเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยของศาล โดยไม่ได้เกิดจากการสำนึกผิดของจำเลยที่ต้องการเยียวยาผู้เสียหายเท่านั้น อัยการโจทก์จึงขอให้ศาลไม่ให้รอการลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดแล้ว เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นเหมาะสมแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

ทั้งนี้ นายอัครณัฐ ได้ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 3 ครั้งแล้ว โดยมีนัดรายงานตัวครั้งสุดท้ายวันที่ 3 มี.ค.นี้ และจะครบกำหนดคุมประพฤติ 1 ปี ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากตามกฎหมายแล้วคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จะไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาได้ เว้นแต่จะมีการขออนุญาตฎีกาที่จะต้องมีผู้รับรองฎีกาตามกฎหมายด้วย

หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว นายอัครณัฐ ก็ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมามีคุณค่ากับผมมาก เรื่องราวทั้งดีทั้งร้ายสอนทุกอย่างในชีวิตผมใหม่หมด ความยากเย็นมันมีคุณค่ากับอนาคตที่ผมต้องเดินต่อ ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด โดยเฉพาะทุกคนที่อยู่ในรูป และอีกหลายๆ คน หลายคนมากๆ จริงๆ เกือบหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา มันจบลงแล้วครับ 🙂 ❤”

ช่วงเวลาที่ผ่านมามีคุณค่ากับผมมาก เรื่องราวทั้งดีทั้งร้ายสอนทุกอย่างในชีวิตผมใหม่หมด ความยากเย็นมันมีคุณค่ากับอนาคตที่ผมต้องเดินต่อ ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด โดยเฉพาะทุกคนที่อยู่ในรูป และ อีกหลายๆคน หลายคนมากๆจริงๆ เกือบหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา มันจบลงแล้วครับ 🙂 ❤️??

โพสต์ที่แชร์โดย THEE (@nott.thee) เมื่อ

ขอบคุณภาพจาก IG: nott.thee

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า