SHARE

คัดลอกแล้ว

สาวประเภทสองวัย 15 ปี ไปนอนกระท่อมสวนยางกับแม่ จู่ๆ คนร้ายใช้ปืนลูกซองกระหน่ำยิง 3 นัด เสียชีวิตคากระท่อม  คนร้ายสารภาพว่า แม้ไม่รู้จักกัน แต่ไม่ชอบสาวประเภทสอง เห็นแล้วรู้สึกไม่ดี จึงลงมือก่อเหตุ

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 17 ม.ค. 61 ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่กระท่อมสวนยางพารา บ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ ที่เกิดเหตุพบศพ เด็กชายภัทรพล แสนคำ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านโนนสะอาด ถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ท้ายทอยและกลางหลัง ในมุ้ง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 3 ปลอก กระสุนลูกซอง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เร่งหาตัวคนร้าย กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ตำรวจตามตัวเจอทราบชื่อคือ นายทวีศักดิ์ โพธิ์เลิง อายุ 20 ปี เดินวนเวียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ท่าทางมีพิรุธ ตามร่างกายมีบาดแผล อยู่ในสภาพคล้ายคนเมา พูดจาวกวน ก่อนสุดท้ายยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายกับมือ แล้วนำปืนลูกซองไปทิ้งในป่า

พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทวีศักดิ์ไปกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ห่างจากหมู่บ้านของผู้ตายเพียง 6 กิโลเมตร

หลังจากเพื่อนเมาแล้วเผลอหลับ นายทวีศักดิ์แอบขี่รถจักรยานยนต์ของเพื่อน และนำปืนลูกซองของพ่อเพื่อนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขณะไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านไปด้วย แล้วมาลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายเสียชีวิต

เมื่อแม่ของผู้ตายทราบว่าลูกชายเสียชีวิต ก็รีบพาลูกชายกลับเข้าบ้านในตัวหมู่บ้าน ระหว่างนั้นคาดว่านายทวีศักดิ์จะย้อนกลับมายังกระท่อมอีก เนื่องจากมีร่องรอยการรื้อค้น มีซองกาแฟถูกฉีกชงดื่ม และนายทวีศักดิ์ได้นำเสื้อแจ็กเก็ตของผู้ตายมาใส่

เป็นจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย นำกำลังย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก็มาเจอนายทวีศักดิ์ อยู่ในสภาพสวมกางเกงบ๊อกเซอร์และเสื้อแจ็กเก็ตของผู้ตาย เดินวนเวียนอยู่ใกล้กระท่อมที่เกิดเหตุ และบอกตำรวจว่าเอาปืนลูกซองไปทิ้งในป่า ซึ่งนายทวีศักดิ์ยังมีประวัติต้องโทษคดีพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ ถูกจำคุก 2 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานก็มาก่อเหตุอีก

ขณะที่นายทวีศักดิ์พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้จักกับคนตาย รู้เพียงผิวเผินว่าเป็นสาวประเภทสอง และเคยเห็นผู้ตายไปเต้นหน้าเวทีหมอลำละแวกบ้าน ตนเป็นคนไม่ชอบสาวประเภทสอง หลังจากดื่มเหล้ากับเพื่อนได้ที่แล้ว เห็นเพื่อนเมาก็เลยเอาปืนของพ่อเพื่อนและขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนมาตามถนนระหว่างบ้านคำโคนสว่าง – คำชิ ห่างจากกระท่อมของผู้ตายประมาณ 500 เมตร

แต่ด้วยความเมาจึงเกิดอุบัติเหตุรถล้ม ตนจึงทิ้งรถแล้วถือปืนเดินกลับมายังกระท่อม ซึ่งมีการก่อกองไฟข้างกระท่อมไว้ และจำได้ว่าเป็นกระท่อมของผู้ตาย จึงเดินไป เป็นจังหวะเดียวกับที่หมาเห่า แล้วตนได้ยินเสียงผู้ตายไล่หมา ก็เลยปืนไปกระหน่ำยิง โดยที่ผู้ตายนอนหันหลัง แล้วตนก็เดินออกมา ซึ่งยอมรับว่าเป็นคนไม่ชอบสาวประเภทสอง เห็นแล้วจะรู้สึกไม่ดี ก็เลยลงมือก่อเหตุ

ด้านนายสมจิตร โพธิ์เลิง อายุ 74 ปี ตาของนายทวีศักดิ์ (ผู้ก่อเหตุ) กล่าวว่า หลานชายของตนมีอาการทางจิตตั้งแต่เด็ก ชอบโกหก พูดจากลับกลอก เสพยาบ้า และติดสุรา พอขอเงินตนไม่ได้ก็ขู่จะทำร้าย ตนก็คอยเตือนแต่ก็ไม่ฟัง ซึ่งตนก็ไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน ไม่นึกว่าหลานชายจะก่อเรื่องขึ้น

ขณะที่นางอรุณี เทียมอาจ อายุ 51 ปี มารดาของผู้ตาย บอกว่า ลูกชายเป็นลูกคนที่ 3 จากบรรดา 4 คน ลูกเป็นสาวประเภทสอง แต่เรียนดี นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อน และครูที่โรงเรียน เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันทักษะทางวิชาการและเล่นกีฬาตัวแทนนักเรียนทุกปี ซึ่งไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ไม่เคยมีศัตรู ทุกวันลูกชายจะนอนที่บ้าน แต่เมื่อคืนลูกชายขอมานอนเป็นเพื่อนตนกับน้องชายที่กระท่อมสวนยาง โดยกระท่อมจะกั้นปูนไว้ชั้นหนึ่ง

ตนกับลูกคนเล็กนอนข้างใน ลูกชายนอนในมุ้งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมาเห่า ตนจึงบอกให้ลูกชายไล่หมา ลูกชายก็ทำเสียงไล่หมา ไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนประทัด 3 ครั้ง ก็ไม่เอะใจ นึกว่าลูกชายจุดประทัดไล่หมาตามปกติ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 20 นาที ตนเรียกลูกชายก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงลุกมาดูก็เห็นลูกชายเสียชีวิตนอนแน่นิ่งเลือดไหลเต็มพื้น ด้วยความตกใจรีบพาลูกกลับเข้าตัวหมู่บ้านและแจ้งตำรวจ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า