Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

รายการบรรจงชงข่าว เปิดใจคุณหมวย (ผู้เสียหาย) กรณีระบุว่าถูก ร.ต.อ.สนธยา เย็นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทำร้ายร่างกาย บังคับข่มขืน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หูซ้ายจนแทบไม่ได้ยิน ซึ่งคดีผ่านมากว่า 1 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้า และยังโดนข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ 

อ่านข่าว ตำรวจราชบุรี ตบสาวแก้วหูฮีก หวังข่มขืน เหยื่อร้องของความเป็นธรรม

https://youtube.com/watch?v=opeFjQ9_yp8

อาการบาดเจ็บตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

คุณหมวยได้บอกถึงอาการบาดเจ็บของเธอว่า ที่ต้นคอมีอาการอักเสบจากการถูกทำร้าย แก้วหูทะลุ เยื้อหูฉีกขาด ทำให้หูข้างซ้ายแทบไม่ค่อยได้ยิน ที่หูยังมีเลือดซึมออกมาจนถึงทุกวันนี้ สภาพโดยรวมการบาดเจ็บอื่นๆ ได้รักษาตัวมาประมาณเดือนกว่า ก็เริ่มดีขึ้น แต่สภาพจิตใจยังย่ำแย่และมีอาการหวาดกลัว

วันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น

ในวันเกิดเหตุ คุณหมวยเล่าว่า หลังจากที่ให้ ร.ต.อ.สนธยา ยืมรถไปใช้แล้ว และตกลงกันไว้ว่าจะต้องคืนภายใน 2 ชั่วโมงนั้น พอครบ 2 ชั่วโมง เธอได้ไปทวงรถคืน ในตอนแรก ร.ต.อ.สนธยา ก็นำกุญแจรถมาคืน แต่พอเธอเปิดเข้าไปในรถ ร.ต.อ.สนธยา ได้ทุบกระจกอย่างรุนแรง เธอกลัวกระจกแตกใส่หน้า จึงเปิดกระจกลง

จากนั้น ร.ต.อ.สนธยา ก็ได้กระชากกุญแจแล้วยึดไว้ ก่อนที่จะตบเธอที่ใบหน้า ทั้งๆ ที่มือยังกำกุญแจอยู่ ก่อนไล่ให้เธอไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วขึ้นมาขับไปเอง โดยบอกว่า ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกัน เลิกคบไปเลย เดี๋ยวจะไปส่งหมวยกลับบ้าน แต่กลับพาเธอไปที่โรงแรมแทน

เวลานั้นคุณหมวยเล่าว่า เมื่อไปถึงโรงแรมที่มีลักษณะเป็นรีสอร์ท ร.ต.อ.สนธยา ก็ได้เปิดประตูห้องเข้าไป แล้วทำทีเหมือนจะยื่นกุญแจให้ แต่กลับไม่คืน กระชากข้อมือของเธอ ก่อนจะเข้ามาลวนลาม ซึ่งเธอไม่ยอมก็เลยถูกทำร้าย

เอาตัวรอดมาได้อย่างไร

ผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนั้นกว่าจะรอดมาได้ คิดว่าคงตายในโรงแรมแล้ว ซึ่งยังต้องเลี้ยง 3 ชีวิต ทั้งอาม่า พ่อใหญ่ และป้า เธอคิดว่าจะต้องกลับไปให้ได้ เลยตัดสินใจวิ่งไปที่หน้าต่าง ตะโกนสุดเสียง 2-3 ครั้งให้มีคนมาช่วย เคราะห์ดีมีคนเดินมาช่วยโดยไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร รู้แต่ว่าเขาเดินมาช่วย มารู้อีกทีว่าเป็นเจ้าของโรงแรมกับลูกน้องอีก 2 คน ประกอบกับ ร.ต.อ.สนธยา เดินไปกินน้ำพอดี เธอจึงรีบวิ่งไปหยิบกุญแจและออกมาในสภาพเปื้อนเลือด แล้วขับรถไปที่ปั๊มแก๊สใกล้เคียง ซึ่งมีเพื่อนเธอ (พยาน) ทำงานอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยหลังเกิดเรื่องจึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี

กรณีคุณหมวยไม่ใช่ผู้เสียหายรายแรก

ทนายรณรงค์ แก้วเพชร กล่าวว่า ได้รับข้อมูลมาว่า กรณีคุณหมวยไม่ใช่กรณีแรก โดยเป็นครั้งที่ 4-5 แล้ว มีร้อยเวรหญิงเล่าให้คุณหมวยฟังว่า มีคดีที่ถูกตำรวจรายนี้ก่อเหตุลักษณะแบบนี้หลายคน แต่ไม่มีใครเอาเรื่อง โดยผู้เสียหายเพิ่มเติมว่า เจ้าของโรงแรมจำได้ว่า ร.ต.อ.รายนี้เคยพาผู้หญิงมาทำร้ายที่นี่ 3–4 ครั้งแล้ว

คดีไม่มีความคืบหน้า

เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีหรือคดีมีพิรุธตรงไหนอย่างไรนั้น ทนายรณรงค์ กล่าวว่า การเก็บวัตถุพยานบางอย่างไม่เป็นแบบที่ผู้เสียหายต้องการ อย่างเช่นการเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แต่กลับไม่มีการเก็บหลักฐานดังกล่าวแต่อย่างใด

ผู้เสียหายยังติดใจว่า ได้มีการพา ร.ต.อ.สนธยา ไปตรวจผลทางร่างกายหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลตรวจใดๆ ให้เธอรับรู้เลย และหลังจากไปแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติเหมือนเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เสียหายรับไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการเข้ามาข่มขู่ให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ โดย ร.ต.อ.สนธยา ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ยังมีไปข่มขู่พยานที่ปั๊มแก๊ส เพื่อขอให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ ทนายรณรงค์ชี้ว่าเป็นการคุกคามพยานในที่เกิดเหตุ พยานในคดี

ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ชี้แจงความคืบหน้าคดี

พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยถึงเรื่องความคืบหน้าของคดีว่า ทางตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม จากการที่ผู้เสียหายได้ร้องว่าคดีไม่มีความคืบหน้าตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอชี้แจงว่า ได้มีการติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา เราได้มีการทำหนังสือชี้แจงความคืบหน้าของคดี เป็นหนังสือชี้แจงความคืบหน้าการสอบสำนวนคดีอาญา ที่ ตช 002(รบ).74/พิเศษ ลง ณ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2561

โดยได้เรียนถึงหญิงสาวผู้เสียหาย สรุปใจความหนังสือระบุว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ขอแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินการของพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2561 ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้ในท้ายหนังสือทางหญิงสาวผู้เสียหายได้มีการเซ็นลายมือชื่อของตนเองลงรับหนังสือไว้อย่างชัดเจน

ส่วนในเรื่องของรูปคดีตอนนี้ พนักงานสอบสวนได้ผลการตรวจของทางแพทย์มาเรียบร้อย เหลือเพียงผลของลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาที่ยังขาดอยู่ เบื้องต้นเราก็เร่งดำเนินการอยู่ หากได้มา ก็จะนำมาประกอบสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลทันที หากผู้เสียหายกังวลในเรื่องของความไม่เป็นธรรมก็สามารถเข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติมได้ ทางเรายืนยันว่า ทำคดีอย่างเที่ยงธรรมที่สุด ในส่วนของพวกพ้องตรงนี้ไม่มีแน่นอน ใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด

สำหรับในเรื่องของการถูกข่มขู่คุกคามนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล หากผู้เสียหายถูกข่มขู่สามารถเข้าแจ้งความได้ ณ ตำรวจท้องที่ได้ทันที และในเรื่องที่มีข่าวว่าทางผู้ต้องหาเกิดก่อเหตุในลักษณะนี้ ตรงนี้อยากให้หญิงสาวที่เคยถูกกระทำสามารถเข้าแจ้งความเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหากพิสูจน์ว่าก่อเหตุจริง

จากรายงานเบื้องต้นจาก สภ.ปากท่อ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ตำรวจนายนี้ ในเรื่องของการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการตำรวจ ทาง สภ.ปากท่อ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยระยะเวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงกำหนดเป็นไปตามระเบียบฯ เช่นกัน

เมื่อคุณหมวย (ผู้เสียหาย) ฟังคำชี้แจงของ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี แล้ว เธอได้กล่าวว่า เคยเข้าไปขอความเป็นธรรม และท่านก็รับปากแล้ว แต่แปลกใจว่า คดีนี้เป็นคดีร้ายแรง สังคมบ้านเมืองเราผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ ทำไมต้องเจอความโหดร้าย และยังทำให้ภาพพจน์ของตำรวจเสื่อมเสีย ทำไมต้องปกป้องปกปิดช่วยเหลือกัน ทำไมไม่เห็นใจเธอบ้าง และเธอควรจะตกเป็นเหยื่อรายสุดท้าย นอกจากนี้ภรรยาของ ร.ต.อ. ก็เคยโดนทำร้าย ซึ่งเคยมาร้องเรียนว่าโดนซ้อม 3-4 ครั้ง

นอกจากนี้ผู้เสียหายยังไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีสองมาตรฐาน เมื่อเป็นคนของรัฐเป็นตำรวจพิทักษ์สันติราษฎร์ทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้รับโทษใดๆ แต่ถ้าเป็นประชาชนกระทำผิด คงติดคุกไปแล้ว โดยเธอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ทนายรณรงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการอนาจารเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี แต่ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งข้อหาแค่อนาจารธรรมดา มีโทษไม่เกิน 10 ปี ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าต้องสอบสวนเพิ่มเติม อาจเป็นจุดที่สงสัยได้ว่า มีความพยายามช่วยตำรวจด้วยกันเองหรือไม่

และที่วันนี้เดินทางมายังกองปราบปราม มีหลายวัตถุประสงค์คือ การคุ้มครองพยาน และคุ้มครองผู้เสียหาย พร้อมกับขอให้กองปราบปรามโอนย้ายคดีจากราชบุรีมาที่ส่วนกลาง เพื่อจะได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เนื่องจากตำรวจที่จะมาทำคดีจะไม่รู้จักผู้เสียหายหรือทางตำรวจนายดังกล่าวมาก่อนเลย

โดยสัปดาห์หน้า ทนายรณรงค์จะพาผู้เสียหายยื่นขอความเป็นธรรมยัง ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อขอทราบคำสั่งว่าจะปลดออก, ให้ออกจากราชการ ร.ต.อ.สนธยา เมื่อไร เพราะปัจจุบันยังเป็นตำรวจอยู่ แต่ย้ายไปโรงพักข้างเคียง

ทนายและผู้เสียหายกล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ได้ต้องการเงินใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่รับการเจรจา โดยจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ซึ่งหามีความคืบหน้าทางทีมข่าวเวิร์คพอยท์จะรายงานให้ทราบต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า