เเม่เหยื่อฆ่าหั่นศพ ร่ำไห้ ขอให้ผู้ต้องหา ถูกประหาร

ความคืบหน้า ฆ่าหั่นศพ ญาติรอรับศพน้องเมย์ นำไปประกอบพิธีทางศาสนา เเม่เหยื่อทำใจไม่ได้ ขอให้ฆาตกรได้รับโทษสูงสุด  

วันที่ 24 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวร้อยเอ็ดติดตามความคืบหน้า กรณีนายธนกฤต หรือ วุฒิ ประกอบ ฆ่าหั่นศพ นางสาวลักษณา กำลังเก่ง เสียชีวิตที่มีนบุรี วันนี้ที่บ้านของผู้ตาย เลขที่ 140 หมู่ 8 บ้านดงหัวเรือ ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด บรรยากาศการเตรียมรอรับศพ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีนางพัชรา กำลังเก่ง อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ กับ นางสาววนิดา กำลังเก่ง อายุ 19 ปี ผู้เป็นน้องสาว รออยู่ที่บ้าน และเตรียมสถานที่ที่วัดไว้รอรับศพ ที่พ่อกำลังเดินทางไปรับกลับมา

และช่วงเช้า นางสาวกัลยา สีขรา นักวิชาการยุติธรรม สำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด นำคณะเดินทางไปพบครอบครัว เเจ้งให้เตรียมเอกสารส่วนตัวผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบการหาทางช่วยเหลือ โดยแจ้งว่าจะมีการมอบเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 1 เเสนบาท

นางพัชรา แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ไม่คิดว่าเรื่องร้ายๆ จะเกิดขึ้นกับลูกสาว ตามปกติลูกสาวกับผู้ต้องหา ช่วงที่มาอยู่ที่บ้าน ทะเลาะมีปากเสียงกันตลอด ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายถึงขนาดนี้

ซึ่งชนวนเหตุเกิดจากการที่ลูกสาวและนายธนกฤตมาอยู่ที่บ้าน มักเจอแฟนเก่ามาเยี่ยมลูกชายเป็นประจำ จนกลายเป็นเรื่องหึงหวง และมีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยมา เพราะนายธนกฤตเกรงว่า ผู้ตายจะกลับไปคืนดีกับสามีเก่า ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเขามาเยี่ยมลูกเท่านั้น

หลังจากมาอยู่บ้านได้ไม่นาน นายธนกฤตก็พาลูกสาวตนเดินทางไปกรุงเทพ จากนั้นก็มีการติดต่อกับลูกสาวอยู่บ่อยๆ และล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวโทรมาบอกว่า จะลาออกจากงาน เพราะเบื่อสามีที่หาเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ

หลังจากลาออกจากงาน ออกมาอยู่บ้านประมาณ 1 เดือนเศษ นายธนกฤตไม่ได้ลงมาด้วย แต่ก็โทรมาง้อประจำ จนผู้ตายไม่ยอมรับโทรศัพท์ ก็โทรมาหาน้องสาวผู้ตาย ขอคุยด้วยเพื่อวิงวอนให้กลับไป แต่ผู้ตายยืนยันว่า จะไม่กลับไป และขอแยกทางโดยเด็ดขาด

แล้วบอกด้วยว่า จะลงไปเก็บของออกจากห้องพักที่อยู่ด้วยกัน เเละเซ็นโอนรถจักรยานยนต์ให้กับนายธนกฤต แล้วจะไปหางานใหม่ทำและหาที่อยู่ใหม่

แต่หลังจากลูกสาวไปกรุงเทพเพื่อเก็บของ ปรากฏว่าเงียบหายไป พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ ก็ติดต่อไม่ได้ โดยไม่ทราบว่าถูกนายธนกฤตฆ่าตายอย่างทารุณแล้ว

เเละวันต่อมาโทรไปก็ปรากฏว่านายธนกฤตรับโทรศัพท์ แต่บอกว่าไม่ทราบนางสาวลักษณาหายไปไหน แถมยังเฉไฉ บอกว่าถ้าแม่ติดต่อได้ ช่วยแจ้งให้ทราบด้วย ซึ่งตนก็ได้แต่สงสัย ไม่คิดว่านายธนกฤตจะโหดร้าย ฆ่าลูกสาวตนอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้

ตนรู้สึกเสียใจ โกรธมาก คิดไม่ถึงว่าจะทำกับลูกตนอย่างโหดร้ายเช่นนี้ อยากให้ขบวนการทางกฎหมายลงโทษให้สูงสุด หรือถึงขั้นประหารชีวิต จึงจะสาสมกับการที่ตนต้องสูญเสียลูกสาวไป

ส่วนศพของลูกสาว นางพัชรากล่าวว่า เมื่อพ่อไปรับศพลูกสาวมาถึงบ้านเกิด ก็คงไม่เก็บไว้นาน เพราะสะเทือนใจจนรับไม่ได้ โดยจะทำการฌาปนกิจให้เร็วที่ที่สุด ที่วัดบ้านดงหัวเรือ ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

ทางด้านนายสุพรรณ พาลี ลุงของผู้ตายกล่าวว่า ช่วงที่นายธนกฤตพาหลานสาวมาอยู่ที่บ้าน ก็ไม่มีท่าทีโหดร้าย เป็นคนสุภาพเรียบร้อย พูดจาอัธยาศัยดี เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ค่อยพูด ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มกาแฟ ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับเป็นคนเก็บกด เพราะช่วงที่มาอยู่ที่ร้อยเอ็ด มีเรื่องระหองระแหงกันเป็นประจำ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่สามีเก่าของหลานสาวมาเยี่ยมลูก ก็มักจะทะเลาะกันทุกครั้ง ซึ่งพอเกิดเรื่องบ่อยๆ จู่ๆ ก็บอกว่าจะพาแฟนสาวไปกรุงเทพ เพื่อหนีแฟนเก่า ไม่อยากให้พบหน้ากันอีก แต่ไปอยู่กรุงเทพก็ยังมีเรื่องทะเลาะกัน จนหลานสาวทนไม่ไหว หนีกลับมาบ้านแล้ว จะแยกทางกัน จนเป็นต้นเหตุให้ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้

“การที่นายธนกฤตทำรุนแรงเช่นนี้ ตนต้องการให้ลงโทษด้วยการประหารชีวิตอย่างเดียว จึงจะสาสม” ลุงของผู้ตายกล่าว