แฉกลลวงของ “กลุ่มฮัจยี” สวมรอยเป็นเจ้ามอญ หลอก บ.ไทย ลงทุน เสียหายกว่า 300 ล้าน

ประเด็นคือ – กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกร่วมลงทุนโครงการสัมปทานก่อสร้างต่างๆ ในเมียนมา เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จากการจับกุมแก๊งที่อ้างตัวเป็นเจ้ารัฐมอญและแอบอ้างเบื้องสูงไปหลอก ทั้งยังพบว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นสื่อมวลชนเข้าร่วมขบวนการ

วันที่ 9 ต.ค. 60 “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” รายงานว่า พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ารับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ถูก บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด (ไทย) หลอกให้ร่วมลงทุนในโครงการสัมปทานการก่อสร้างในเมียนมา

โดยหลังจากดีเอสไอ ตำรวจกองปราบ และทหาร ได้จับกุม นางสุภัตทา จันทรรังษี ประธานกรรมการบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด (ไทย) นายโกสินธ์ หรือ เบียร์ จินาอ่อน บก.นิตยสารท้องถิ่น ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมถึงออกหมายจับ นายกอว มิน อู หรือ เทพโยธิน มหาทุน ที่แอบอ้างเป็นเจ้ารัฐมอญ ขณะนี้หลบหนีอยู่ที่ประเทศเมียนมา หลอกให้ร่วมลงทุนในประเทศเมียนมา และตรวจค้นศูนย์ประสานงานบรรเทาภัยพลเมือง มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตมีนบุรี เพราะพบความเชื่อมโยงว่าร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยมีขบวนการบุคคลแอบอ้างเป็นสื่อมวลชนซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่น ทั้งเคเบิ้ลทีวีและหนังสือพิมพ์ โดยรับเงินเพื่อลงข่าวให้ขบวนการดังกล่าวดูน่าเชื่อถือ

การตรวจค้นห้องพักของนางสุภัตทา พบเอกสารโครงการก่อสร้าง 78 โครงการ ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย พร้อมตัวร่างสัญญาโครงการซึ่งพบว่าเป็นของปลอม มีการแอบอ้างขายชั้นยศ ข้าราชการตำรวจ ยศ พล.ต.ต. โดยขายที่ราคา 50,000 บาท ยศ พล.ต.ท. ขายที่ราคา 80,000 บาท

นางสุภัตทา จันทรรังษี ประธานกรรมการบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด (ไทย)

ด้าน นายไตรสิทธิ์ เมธาพิชิตพงศ์ ผู้เสียหายรายแรกที่เข้ามาร้องดีเอสไอเมื่อปี 2558 เล่าถึงกระบวนการหลอกลวงของกลุ่มคนในบริษัทฮัจยีว่า แบ่งลักษณะการทำงานเป็นชั้นกลุ่ม มีบุคคลในเครือข่าย 8 – 9 คน ซึ่งมีตำรวจร่วมอยู่ด้วย โดยกลุ่มแรกคือบริษัทฮัจยี จะให้บริษัทหรือกลุ่มคนที่เรียกว่า กลุ่มหัวใส เชิญชวนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างและรับเหมางานต่างๆ ในปลายปี 2557 ให้มาซื้อซองรับทำโครงการที่อ้างอิงสถาบันและภาครัฐ

โดยทุกบริษัทจะต้องจ่ายค่าซองหรือค่าธรรมเนียมเข้าร่วมก่อสร้างงานในโครงการ บริษัทละ 25,000 – 300,000 บาท โดยเสนอผลประโยชน์รายได้ หากรับงานจะได้เงิน 1,500 ล้านบาท และหากบริษัทใดไม่มีเงินจะส่งต่อให้กลุ่มโบรกเกอร์จัดปล่อยเงินกู้ แต่บริษัทผู้รับเหมาจะต้องตีเช็คเงินสดเพื่อค้ำประกัน โดยตั้งเรตราคากู้ 35,000 บาท ตีเช็ค 500 ล้านบาท เป็นต้น เพียงใน 1 เดือน มีบริษัทขนาดเล็กถึงกลางหลงเชื่อกว่า 400 แห่ง และตระเวนก่อเหตุลักษณะเดียวกันในหลายจังหวัด

ขณะที่ดีเอสไอรวบรวมมีผู้เสียหายแล้วกว่า 400 บริษัท มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท และขอให้ผู้เสียหายเข้ามาแสดงตนและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ก่อนที่จะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ที่ผ่านมามีการข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้เข้าแจ้งความ ซึ่งดีเอสไอได้ประสานผู้เกี่ยวข้องกับรัฐมอญมาให้ข้อมูลแล้วพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้ารัฐมอญแต่อย่างใด

และที่ผ่านมากลุ่มบุคคลนี้ปฎิเสธที่จะให้ตรวจสอบ โดยบุคคลกลุ่มนี้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน, ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนจะเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนที่มีสื่อนำเสนอข่าวของกลุ่มบริษัทนี้ก็ต้องตรวจสอบว่า การนำเสนอข่าวมีเจตนารู้เห็นด้วยหรือไม่