แม่ค้าเสื้อผ้าวัย 70 ปี ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ภายในคอนโดย่านสะพานใหม่

แม่ค้าขายเสื้อผ้าวัย 70 ปี ถูกฆาตกรรมคาคอนโดย่านสะพานใหม่ คาดถูกฆ่าชิงทรัพย์ พบรอยรื้อค้นทรัพย์สินในห้อง ทรัพย์สินผู้ตายหายไปหลายรายการ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายชาวจีนต้องสงสัย ประสาน สตม.ติดตามตัวสอบสวน หวั่นหลบหนีออกนอกประเทศ 

วันนี้ (12 ก.พ.62) เมื่อเวลา 01.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.พิเชฐศักดิ์ ปิยรัตนสถิตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีการฆาตกรรมภายในคอนโดแห่งหนึ่ง แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นคอนโดสูง 4 ชั้น ที่อาคาร 4 ชั้น เมื่อมาถึงหน้าห้องเกิดเหตุ พบว่า ประตูถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่ต้องถอดกระจกบานเกร็ดหน้าต่างหน้าห้อง เพื่อเอื้อมมือไปปลดล็อกประตู จากการตรวจสอบภายในห้อง พบศพ น.ส.อารยา ทรัพย์สวรรค์ อายุ70 ปี ที่อยู่108/128 หมู่7 แขวงอนุสาวรีย์ กรุงเทพฯ สภาพศพนอนหงาย ลิ้นจุกปากอยู่บนเตียง ส่วมเสื้อแขนยาวลายดอก กางเกงขายาวสีดำ บริเวณลำคอมีร่องรอยเขียวคล้ำ ตรวจสอบภายในห้องพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่เพื่อป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน นายวีรวิชญ์ เชื้อสุขศานต์ทอง อายุ 30 ปี ลูกชายผู้ตายกล่าวว่า แม่ของตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าส่ง-ปลีกอยู่ย่านสะพานใหม่ ก่อนเกิดเหตุน้องชายแจ้งว่าแม่หายตัวไปตั้งแต่เวลา 12.00 น. (11 ก.พ.) โดยบอกว่าจะไปเปิดห้องเช่าให้คนที่มาเช่าห้องที่ดอนโดดังกล่าว และให้พ่อเป็นคนเฝ้าร้านขายเสื้อผ้า จากนั้นตนและน้องชายจึงเดินทางไปที่คอนโดดังกล่าวและพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียนป้ายเขียว1 ฒม 1523 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่จึงรีบขึ้นไปดูบนห้องก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบจนทราบว่าแม่เสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโด พบว่ามีชายต่างชาติสัญชาติจีน อายุประมาณ 40 ปี เข้าไปในห้องพร้อมกับผู้ตายเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนจะเดินออกมาจากห้องคนเดียวเมื่อเวลา 15.00 น. โดยในมือถือเชือกสีชาวและถุงพลาสติกใส่ของบางอย่างออกมาด้วย ซึ่งจากการสอบถามลูกทราบว่า ชายดังกล่าวเป็นชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยและติดต่อขอเช่าห้อง โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาชาวจีนคนดังกล่าวยังเคยยืนเงินจำนวน 120,000 บาท และขโมยบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย และนำไปกดเงินจำนวน 400,000 บาท ก่อนจะหลบหนีกลับประเทศจีนและขาดการติดต่อไป จนกระทั่ง เมื่อ2 วันที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อกลับมาว่าจะคุยเรื่องการคืนเงินและทำการนัดพูดคุยกันที่ห้องดังกล่าว

ผู้ต้องสงสัยชาวจีน

ผกก.สน.บางเขน กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินของผู้ตายได้หายไป ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยคอมือ 2 บาท แหวน1 สลึง ได้หายไป และนอกจากนี้ภายในห้องยังพบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องอีกด้วย หลังจากนี้จะทำการประสานไปยังสตม. เพื่อทำการป้องกันกันและติดตามตัวชาวจีนคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนก่อนจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ