SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจ สภ.หลังสวน จ.สุราษฏร์จับโจ๋วัย 20 ปี หลังก่อเหตุขโมยรถยนต์สายตรวจก่อนขับชนพังยับ พร้อมตั้งข้อหาหนักหลายกระทง

วันที่ 26 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุมีคนร้ายลอบขโมยรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนขับรถชนยับโดยที่คนร้ายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยทางตำรวจได้นำรถยนต์สายตรวจของ ตำรวจจราจร สภ.เมืองสุราษฏร์ฯ ไปเก็บไว้ที่ สภ.หลังสวน เพื่อรอตำรวจจาก เมืองสุราษฏร์ธานี มารับกลับไป สภาพของรถยนต์สายตรวจจราจร อยู่ในสภาพพังยับเยิน จนแทบไม่น่าเชื่อว่านายอัครเดช ปาละแก้ว อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

จากการสอบสวนของ ตำรวจได้การว่า นายอัครเดชได้รับการอภัยโทษ เมื่อวันที่ 5 ธค.ที่ผ่านมา ด้วยความที่เป็นคนจังหวัดเลย และไม่มีเงินเดินทางกลับไปยัง จ.เลย เมื่อเดินจากเรือนจำ จึงได้อาศัยหลับนอนในบริเวณป้อม ตร.จร. ซึ่ง ตำรวจเห็นว่ายังเด็กและดูท่าทางไม่มีพิษภัยก็ให้อาศัยอยู่ด้านนอกของป้อม จนกระทั่งเมื่อวานนี้ในจังหวะที่ตำรวจที่เข้าเวรป้อมออกไปทำธุระแล้วล็อคกุญแจป้อมไว้ มีกุญแจรถยนต์สายตรวจแขวนไปริมผนังป้อม เนื่องจากตำรวจราจรจะมารับเวรใหม่ในช่วงเช้า ตำรวจผลัดเย็นมักจะเอารถสายตรวจจอดไว้และแขวรกุญแจไว้ในป้อม เพื่อสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของเวรผลัดต่อไป

ขณะนั้นนายอัครเดชที่อยู่ในอาการเมายาบ้าอย่างหนัก ได้ใช้ก้อนหินทุบกระจก ล้วงเปิดประตูแล้วรื้อค้นทรัพย์สินแต่ได้เพียงวิทยุสื่อสารของ ตำรวจไป 4 เครื่อง และบัตรประชาชนของชาวบ้านที่ถูกยึดไว้อีก 2 ใบ พร้อมทั้งหยิบเอากุญแจรถยนต์สายตรวจไปสตาร์ทรถยนต์สายตรวจที่จอดข้างป้อม ขับไปเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมันที่ตำรวจไปเติมเป็นประจำ อ้างว่าจะเอาบิลน้ำมันมาให้ในช่วงเช้า และขับมุ่งหน้าไป จ.เลย

โดยนายอัครเดชยังกล่าวอีกว่า รถกระบะรุ่นนี้ สามารถวิ่งได้เร็ว ถึง 190 กม./ชม. จนกระทั่งมาชนเสาไฟจราจรและเสาไฟฟ้าสิ้นฤทธิ์ ใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจากที่ป้อมตำรวจจราจรที่ขโมยรถมา ถึง 100 กม.ตำรวจ สภ.หลังสวน จนเจ้าหน้าที่มารวบตัวในที่สุด พร้อมตั้งข้อหาขับรถในขณะมีสารเสพติดในร่างกาย และขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินทางราชการ ทรัพย์สินสาธารณะ เสียหาย ก่อนส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดหลังสวน หลังจากรับโทษ ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร แล้ว ก็จะต้องไปรับโทษ ที่ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี ในข้อหาลักทรัพย์สินของทางราชการต่อไป

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า