รวบแล้ว ! โจ๋เลือดร้อน ยิงพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว เสียชีวิต

รวบวัยรุ่นก่อเหตุยิงหนุ่มใหญ่เสียชีวิต พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9  มม. กระสุนปืนจำนวน 4 นัด

เมื่อเวลา 15.30  น. วันที่ 18 ก.ย.61 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันจับกุม นายพล กิตรัตน์ อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 88/2 ม.3 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 723/2561 ลงวันที่ 16 กันยายน 2561 พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9  มม. จำนวน 1กระบอก กระสุนปืนจำนวน 4 นัด

ด้านพล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 16 ก.ย. 61 เวลาประมาณ 00.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภัทรธนบุรี ทราบชื่อ นายพริศวร์ หรือช้าง สุขทรัพย์ศรี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/9 ม.2 ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณใต้ราวนมซ้าย จำนวน 1 นัด เหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 45/323 ม.4 หมู่บ้านพฤกษา D ซอย 7/2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน จ.ปทุมธานีและเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบจึงทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีด้วยกัน 2 คน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง จับกุมตัวได้แล้วทราบชื่อนายรินทร์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 1 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งจับได้ที่ชุมชนคุ้งผ้าพับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ส่วนผู้ต้องหาอีกรายที่ถูกจับกุมนเวลาต่อมาคือ คือ นายพล กิตรัตน์ อายุ 23 ปี ได้ยอมรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นก็หลบหนีไปอยู่บ้านญาติที่ จ.เพชรบูรณ์ สาเหตุที่ทำไปเพราะผู้ตายทำท่าไม่พอใจตนเอง ที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่ตรงข้ามบ้านผู้ตาย

ซึ่งตนก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว แต่ผู้ตายไม่ยอมยกโทษให้ พร้อมทั้งขู่ว่าอย่าให้เจอหน้าแถวนี้อีก แต่จะไม่ให้เจอหน้าตนได้อย่างไร เพราะตนมาทำงานที่คลองสามทุกวัน ตนจึงได้ไปขอยืมปืนของเพื่อนมาก่อเหตุดังกล่าว

ส่วน ร.ต.อ.ชัยยันต์ คุณารักษ์ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ได้เเจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนและอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร”