สถานการณ์จำเป็น! “จาตุรนต์-แกนนำนปช.” สละเพื่อไทยซบไทยรักษาชาติ

“จาตุรนต์ ฉายแสง” และ “แกนนำนปช.” พร้อมใจกันมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ 

วันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคให้การต้อนรับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นางฐิติมา ฉายแสง, น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์, นายนิคม ไวรัชพานิช, นายประพัฒน์ จงสงวน และแกนนำนปช. นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายก่อแก้ว พิกุลทอง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ให้เหตุผลในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และมาเข้าร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งจากพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเพราะสถานการณ์การเมืองมีความจำเป็น พร้อมปฏิเสธที่ตอบคำถามกรณีมีข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส. เขต ส่วนพรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคที่จะสู้เพื่อให้ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) เนื่องจาก ตนลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว และทางหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ คงจะชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนต่อไป

นายจาตุรนต์ เชื่อว่า ไม่ว่าฝ่ายไหนจะตั้งรัฐบาล ก็เป็นเรื่องยากที่จะมีพรรคเดียวรวมเสียงได้เกินครึ่งหนึ่ง หรือ 251 เสียง และเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ยังไม่ประกาศความชัดเจนว่า จะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจหรือไม่ แสดงความชัดเจรออกมา พร้อมระบุ พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่ทางออกของประเทศ

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นตัวแทนแกนนำนปช. ว่า ที่มาสมัครเข้าพรรคไทยรักษาชาติ เพราะเชื่อมั่นว่า พรรคไทยรักษาชาติยืนยันหลักการประชาธิปไตย และต่อสู้กับทุกพรรคการเมืองตามกติกา ส่วนข้อสังเกตที่ว่า พรรคเพื่อไทย คือ พรรค ส.ส.เขต ส่วนพรรคไทยรักษาชาติ คือ พรรค ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์นั้น ตนไม่เคยได้ยินใครพูดเช่นนั้น และมองว่าเป็นข้อสังเกตที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

สำหรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ไปเป็นกองเชียร์ของพรรคเพื่อชาตินั้น ไม่ใช่ภาพความแตกแย้งของคนเสื้อแดง เพราะแกนนำได้ตกลงแล้วว่า จะให้อิสระกัน เพียงแต่ว่า จะต้องไม่ไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ

( ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย )

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสมาชิกลาออกจากพรรคว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพวกเรา เป็นธรรมดาที่สมาชิกจะต้องหาเส้นทางเพื่อมาทำงานทางการเมืองตามระบบรัฐสภา และแก้ปัญหาให้ประชาชน ตนเข้าใจสมาชิกทุกคนที่ลาออกไป การลาออกครั้งนี้ก็ถือเป็นการจากกันด้วยดี แต่ยอมรับว่า รู้สึกใจหาย แต่ยังเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ มีบุคคลที่พร้อมทำหน้าที่

ขอบคุณภาพ FB : Phumtham Wechayachai