ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในกรีซ เสียชีวิตแล้ว 74 เจ็บอีกนับร้อย

นักดับเพลิงและอาสาสมัครช่วยกันดับไฟป่าในเมืองคิเนตตา

ไฟไหม้ป่ารุนแรงรอบกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ประชาชนนักท่องเที่ยวหนีตายอลหม่านแต่ไม่ทัน เสียชีวิตอย่างน้อย 74 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อย ด้านสถานทูตไทยในกรีซรายงานว่ายังไม่พบคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุไฟป่าอย่างรุนแรงโดยเผาพื้นที่ป่าและบ้านเรือนประชาชนในหลายหมู่บ้านรอบกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของประเทศกรีซ

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 74 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 170 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 11 คน และบ้านเรือนประชาชนถูกเผาวอกราว 1,000 หลัง

ไฟ่ป่าเผาบ้านเรือนประชาชนในเมืองคิเนตตา ใกล้กรุงเอเธนส์วอด

ตามรายงานระบุว่า ไฟได้เริ่มลุกไหม้ขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่เมืองคิเนตตาซึ่งอยู่ห่างจากเอเธนส์ไปทางตะวันตกประมาณ 48 กม. ขณะที่อีกแห่งหนึ่งเกิดขึ้นที่หมู่บ้านมาตีในเมืองราฟินา ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร ซึ่งถือนับเป็นไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศกรีซ

ขณะที่นายดิมิทริส ซานาโคปูลอส โฆษกรัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า เหยื่อไฟป่าที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกพบติดอยู่ภายในบ้านและในรถยนต์ของตนเองย่านรีสอร์ทในมาตี โดยสภาพศพส่วนใหญ่ถูกเผาไหม้เกรียมและทับถมกัน ลักษณะพยายามหนีไฟลงทะเลแต่ไม่ทัน

รถยนต์ประชาชนในหมู่บ้านมาตี เมืองราฟินา ถูกไฟ่ป่าเผาเสียหาย

รัฐบาลกรีซได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยขอความช่วยเหลือเร่งด่วนจากประเทศในยุโรป ส่งเฮลิคอปเตอร์และนักผจญเพลิงสนับสนุนปฏิบัติดับไฟป่าและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังไม่แน่นอนแต่มีแนวโน้มว่าจะมีเพิ่มอีกจำนวนมาก ส่วนทางการได้สั่งอพยพประชาชนในชุมชนริมชายฝั่งทางตะวันตกของเอเธนส์ หลังไฟป่าโหมกระหน่ำรุนแรงจนรถไฟต้องหยุดให้บริการ ถนนมอเตอร์เวย์สายเอเธนส์-โครินธ์ถูกปิดการจราจร

ไฟป่าครั้งใหญ่ในประเทศกรีซครั้งนี้ ยังก่อให้เกิดควันพิษลอยมาปกคลุมทั่วน่านฟ้าจนถึงเมืองหลวง

ถนนหลวงถูกปิดทำให้รถยนต์จอดติดจำนวนมาก ท่ามกลางควันไฟปกคลุมทั่วน่านฟ้า

ด้านกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ได้ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กของหน่วยงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเอเธนส์ ได้ตรวจสอบแล้วในขณะนี้ ไม่ปรากฏว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ขอบคุณภาพจาก AFP

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews