แม้จะโทรศัพท์ไปอ้อนวอนให้เข้ามอบตัวแต่ก็ไม่เป็นผล “ชาย วัดเกาะ” เอเย่นต์ค้ายา สงขลา ทิ้งแฟนไว้กับปืน และยาเสพติดจำนวนมาก ฝ่ายหญิงสุดช้ำถูกผู้ชายหลอกให้รับโทษแทนเป็นครั้งที่ 2
เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับตำรวจปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 9 บุกเข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านเลขที่ 745 หมู่ที่ 4 ถนนศรีรัตนะ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังขยายผลกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดให้การซัดทอดว่า นายอัครปกรณ์ หรือ ชาย งามบุญริด อายุ 32 ปี ฉายา “ชาย วัดเกาะ” ใช้บ้านหลังดังกล่าว เป็นที่จำหน่ายยาเสพติด
แต่ปรากฏว่า ขณะเข้าตรวจค้น “ชาย วัดเกาะ” ไหวตัวทัน กระโดดออกจากบ้านหลบหนีไปก่อน เพราะเห็นเจ้าหน้าที่จากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณหน้าประตูบ้าน ทิ้ง น.ส.สุชาดา หรือ ตุ่น เรืองสังข์ อายุ 30 ปี แฟนสาวอยู่ในบ้านลำพัง
เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว น.ส.สุชาดา พร้อมตรวจค้นบ้าน พบ ไอซ์ 2 ถุง น้ำหนัก 6 กรัม ยาบ้า 3 เม็ด อุปกรณ์การเสพและถุงบรรจุซุกซ่อนอยู่ในห้องนอน อาวุธปืน 4 กระบอก โดยปืนลูกซองสั้น ถูกซุกซ่อนในห้องครัว ปืนลูกโม่ขนาด .22 ใส่ไว้ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ปืนยาวขนาด .22 อยู่ข้างซอกซ่อนอยู่หลังทีวี พร้อมกระสุนขนาดต่างๆ 24 นัด
สอนสวน น.ส.สุชาดา ระบุว่า ของกลางเป็นของแฟนหนุ่ม ทางตำรวจจึงให้ น.ส.สุชาดา โทรไปหา นายอัครปกรณ์ แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ให้ยอมรับผิดแทน และจะพยายามหาเงินมาช่วยเคลียร์คดีภายหลัง แต่ยังย้ำว่า รักและเป็นห่วงมาก” แม้ว่าระหว่างที่พูดคุยโทรศัพท์นั้น น.ส.สุชาดา จะพยายามอ้อนวอนให้ นายอัครปกรณ์กลับมารับผิดมอบตัวกับตำรวจก็ตาม เพราะตนก็ไม่อยากติดคุก แต่ นายอัครปกรณ์ปฏิเสธ เอาตัวรอดเพียงคนเดียว
น.ส.สุชาดา เล่าว่า ตนถูกผู้ชายหลอกให้ต้องรับผิดชอบเรื่องค้ายาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง โดยแฟนคนก่อนหน้านี้ ปล่อยให้ตนถูกตำรวจจับกุมจนต้องติดคุก เพิ่งพ้นโทษมาประมาณปีเศษ ก่อนมาคบหากับ นายอัครปกรณ์ ก็เจอกับเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีก
อย่างไรก็ตาม แม้ น.ส.สุชาดา จะปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของยาเสพติดตัวจริง แต่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ทั้งนี้ น.ส.สุชาดา ยังรับสารภาพว่า เสพยาด้วย