ศาลอาญาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแกนนำนปช. บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นวันที่ 23 ก.ย. เนื่องจาก นายวีระกานต์ป่วย
วันที่ 31 ก.ค. ศาลอาญาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแกนนำนปช. บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปเป็นวันที่ 23 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. เนื่องจาก นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ จำเลยที่ 4 ขอเลื่อน หลังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1-7 ดังนี้
- นายนพรุจ หรือ นพรุฒ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006
- นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน
- นายวันชัย นาพุทธา
- นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
- นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.
- นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.
- นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.
ข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216, 297, 298 ประกอบมาตรา 33, 83 และ 91
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ปี2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธงตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 2558 ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา ให้จำคุก นายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ และยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด
ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ว่า จำเลยไม่อยู่ในวันที่เกิดเหตุ ส่วนจำเลยที่ 4 -7 ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงกรรมเดียว และเป็นการกระทำเพื่อปกป้องการถูกคุกคาม ซึ่งเป็นข้อยกเว้นในการลงโทษ ส่วนนายวีระศักดิ์และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 ซึ่งศาลยกฟ้องนั้น อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย โดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม 1 กระทง ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งในส่วนของนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน
ทั้งนี้ ในชั้นอุทธรณ์ศาลอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 5 คน ตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิมคือห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต