คนร้ายแฝงตัวเป็นลูกค้าจี้ชิงนาฬิกาหรูหนุ่มค้าเหล็กในโรงแรมย่านลาดพร้าว

อุกอาจกลางกรุง คนร้ายใช้ปืนจี้หนุ่มนักธุกิจค้าเหล็กชิงนาฬิการิชาร์ดมิลล์ ราคาเรือนละ 5.3 ล้านบาท ก่อนยิงขู่เปิดทางหลบหนี

วันที่ 26 เม.ย.2562 เวลาประมาณ 03.00 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่และชิงทรัพย์นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อริชาร์ดมิลล์ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท บริเวณโรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าว ภายในซอยลาดพร้าว 4 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ร.ต.อ.อิทธิกร ชูสิงห์ รอง สวป.สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุ นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ นายทวีพัฒน์ สิทธิกุล อายุ 35 ปี ผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในอาการตกใจ

จุดเกิดเหตุบนถนนห่างอยู่ห่างจากหน้าประตูโรงแรมประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 ปลอก ห่างกัน 50 เมตร บริเวณปากซอยลาดพร้าว 4 พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่อีก 2 ปลอก และแม็กกาซีนปืน ขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนเต็มแม็ก ตกอยู่ 1 อัน

นายทวีพัฒน์ ให้การว่า ทำธุรกิจขายเหล็กอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่มีอาชีพเสริมคือซื้อขายแลกเปลี่ยนนาฬิกาหรู ซึ่งคนในแวดวงนาฬิกาหรูจะรู้จักในฉายา “Naset นาฬิกาหรู” โดยก่อนเกิดเหตุตนกับแฟนได้นั่งเครื่องบินมาจากหาดใหญ่เพื่อมาพักที่ กทม. เพราะมีการนัดขายนาฬิกาข้อมือ Richard Mille รุ่น 011-03 TI มูลค่ารวม 5.3 ล้านบาท ให้กับลูกค้ารายหนึ่งที่ติดต่อซื้อขายผ่านทางเฟซบุ๊ก และนัดลูกค้าที่โรงแรมเวลา 21.00 น.ของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่เลยเวลานัดหมายมาหลายชั่วโมงจึงโทรศัพท์ไปยกเลิกนัด แต่ลูกค้ายืนยันขอเลื่อนเวลาเป็น 01:30 น.

นายทวีพัฒน์ เล่าว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายก็พบลูกค้าคนดังกล่าวเป็นผู้ชาย 1 คน อายุ 20-30 ปี สวมหมวกแก็ป สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ เข้ามาพบเพื่อขอดูนาฬิกาที่จะตกลงซื้อขายกัน ระหว่างเจรจาและดูสินค้ากันที่ล็อบบี้ของโรงแรม ลูกค้าหยิบอาวุธปืนออกมาให้เห็นและวิ่งหนีไปพร้อมนาฬิกา จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือและวิ่งตามคนร้ายไป คนร้ายใช้ปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนจะวิ่งออกไปทางปากซอยลาดพร้าว 4 เพื่อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน นายทวีพัฒน์วิ่งตามไปอีกแต่คนร้ายหันมายิงปืนใส่มาอีก 2 นัด และหลบหนีไปได้

จากการสอบพยานในละแวกที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุวนเวียนไปมาอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุตั้งแต่ 21.00 น.ของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเอารถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ช่วงดึก และถึงจะดำเนินการลงมือก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ออกไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางหลบหนีแล้ว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปเทียบกับประวัติอาชญากร คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพเพราะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยขณะนี้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานและจะเร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป